หลังจากห่างหายการรีวิวอุปกรณ์เสริมมือถือไประยะหนึ่ง ตอนนี้มีกลับมาอีกครั้งแล้วครับ ซึ่งของที่นำมารีวิวในครั้งนี้ก็มาจากการสั่งของผมเอง พอได้ของมาก็มารีวิวให้อ่านเล่นๆ กัน ของที่ว่านั้นก็คือ?Pressy?ปุ่มกดสารพัดประโยชน์สำหรับผู้ใช้งาน Android นั่นเอง ก่อนจะไปเห็นตัวเป็นๆ ของเจ้า Pressy เรามาดูที่มาของมันกันก่อนครับ
Pressy นี้เป็นหนึ่งในโปรเจ็กท์ระดมทุนบนเว็บไซต์ KickStarter เว็บระดมทุนชื่อดังของต่างประเทศ ที่เปิดให้ผู้มีไอเดียมานำเสนอแผนโครงการของตนเพื่อที่จะทำตามไอเดียของตนเอง ซึ่งก็มีหลากหลายรูปแบบครับ เช่นระดมทุนไปสร้างผลิตภัณฑ์ (ลักษณะเหมือนเราจ่ายเงินซื้อของล่วงหน้าในราคาพิเศษ) ระดมทุนไปทำหนังสั้น ระดมทุนเพื่อเป็นค่าเดินทาง สมทบทุนเพื่อกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น ซึ่งแต่ละโครงการก็จะมีเป้าของตนเอง ว่าถ้าระดมเงินได้ตามเป้าแล้วเท่านั้นถึงจะเริ่มทำ ถ้าไม่ถึงเป้าก็ไม่ทำ ไม่ตัดเงินเราไป บางทีถ้าเกินเป้าแล้วก็อาจจะมีส่วนเสริมพิเศษเพิ่มให้เป็นลำดับๆ ไป ซึ่งผู้สนับสนุนโครงการจะเลือกสมทบทุนด้วยเงินเท่าไรก็ได้ แต่ก็จะมีเป็นลำดับขั้นขึ้นไป เช่นว่าถ้าหากสมทบทุน $15 ก็จะได้ของ 1 ชิ้น ถ้าเป็น $30 ก็ได้ของ 1 ชิ้นพร้อมเสื้ออีก 1 ตัว เป็นต้น อันนี้ก็แล้วแต่ทางผู้เป็นเจ้าของโครงการ ที่ผ่านมาก็มีหลากหลายโครงการที่เกิดและดังขึ้นมาจาก KickStarter ครับ ตัวอย่างก็เช่นเครื่องเล่นเกม OUYA, Oculus Rift, นาฬิกา Pebble
สำหรับ Pressy นี้ ก็คือปุ่มกดสารพัดประโยชน์ที่ผู้ใช้งานสามารถป้อนหน้าที่ที่ต้องการให้มันทำได้ แตกต่างกันไปตามรูปแบบการกดปุ่ม โดยจะใช้การเสียบลงไปในช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรของมือถือ?รองรับการใช้งานร่วมกับมือถือ/แท็บเล็ต Android เท่านั้น?ปลายอีกข้าง (ที่เห็นเป็นวงกลมสีดำในภาพด้านบน) ก็คือปุ่มกด ซึ่งสามารถกดได้แค่สองวิธีคือกดแล้วปล่อยทันทีกับกดค้างไว้ โดยมีรูปแบบการกดที่แตกต่างกันได้มากสุด 9 แบบ
ในช่วงก่อนหน้านี้ไม่นาน หลายท่านอาจจะพอจำกัดได้ที่ทาง Xiaomi เปิดตัว MiKey ที่เรียกว่าโคลน Pressy มาค่อนข้างชัดเจน ก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องราวการฟ้องร้องต่างๆ ดำเนินไปถึงไหนแล้วนะครับ คงต้องรอตามข่าวกันต่อไป
สำหรับคนที่สนใจ Pressy แต่ร่วมระดมทุนในช่วงเปิดรับไม่ทัน ตอนนี้ก็สามารถสั่งซื้อ Pressy บนเว็บไซต์ได้ ในราคาต่ำสุดอันละ $27 หรือประมาณ 870 บาท โดยราคาตอนช่วงระดมทุน ถ้าเป็น Pressy+ปลอกหุ้มจะราคาชุดละ $20 ส่วนถ้าเป็นตัว Pressy เดี่ยวๆ จะแค่อันละ $17 เท่านั้น (ถ้าเป็นกลุ่มแรกสุดจะเป็นชุด Pressy+ปลอกหุ้มในราคาชุดละ $15) สามารถสั่งให้มาส่งถึงบ้านได้เลยครับ โดยถ้าเป็นในไทยจะคิดค่าส่งเพิ่ม $5 หรือประมาณ 150 บาท เบ็ดเสร็จก็คือถ้าสั่งอันเดียว ก็เตรียมเงินไว้ได้เลย 1,000 บาทนิดๆ จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต หรือจะ PayPal ก็ได้ตามสะดวก เมื่อสั่งซื้อเรียบร้อยแล้ว สินค้าจะเริ่มจัดส่งภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์ มีให้เลือกทั้งสีดำ, น้ำเงิน, แดงและขาว
ทีนี้เรามาดูตัวจริง Pressy กันบ้างครับ หีบห่อจะมาเป็นกล่องชิ้นเดียว กระดาษรักษ์โลกน้ำตาลเข้มมาเลย เมื่อแกะออกมาก็จะพบเจ้า Pressy อยู่ภายในช่องว่างที่มีซีลพลาสติกปิดอยู่ ส่วนฝากล่องฝั่งในอีกด้านจะมีวิธีการใช้งาน รวมถึงบาร์โค้ด 3 มิติและรหัสที่ไว้สำหรับเปิดใช้งานแอพ Pressy อยู่ ซึ่งตัวแอพ Pressy นี้มีให้ดาวน์โหลดบน Play Store เรียบร้อยแล้ว พอเริ่มใช้งานจริงๆ ปรากฏว่าไม่ต้องกรอกรหัสลงทะเบียนอะไรเลย สามารถใช้ได้ทันที ก็งงๆ อยู่เหมือนกันว่าตกลงต้องลงทะเบียนอะไรหรือเปล่า
ลองเสียบใช้งาน Pressy กับ Nexus 5 ดู จะเห็นว่าตัวจริงมันเกยขึ้นมาจากพอร์ตเยอะพอสมควรคือประมาณ 2 มิลลิเมตร ไม่ได้ถึงขั้นจมลงไปแบบภาพบนๆ นะครับ
ดูในมุมอื่นๆ บ้าง
สำหรับการใช้งานครั้งแรก ให้เปิดแอพขึ้นมาก่อน จากนั้นรอให้มันมาถึงขั้นตอน Insert Pressy ก็ค่อยเสียบตัวแจ็ค Pressy เข้าไปในช่องเสียบหูฟังในมือถือ/แท็บเล็ตของเรา โดยการเสียบ ต้องระวัง ห้ามกดปุ่มกดของ Pressy เป็นอันขาด ดังนั้นจึงต้องใช้ปลายเล็บค่อยๆ กดที่ริมของ Pressy ลงไป ห้ามกดโดนปุ่ม อันนี้จัดว่าค่อนข้างลำบากพอสมควรทีเดียว เมื่อจัดการเสียบเข้าไปเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีให้เลือกแอพ Pressy เป็นแอพเริ่มต้นเมื่อเสียบแจ็คเข้าชช่องหูฟัง ซึ่งต่อไปนี้ เวลาเราเสียบ Pressy หรือเสียบหูฟัง ก็จะมีการถามทุกครั้งว่าจะให้ทำงานเป็นโหมดอะไร มีให้เลือกคือโหมด Pressy, โหมดหูฟัง+Pressy และโหมดสุดท้ายคือโหมดหูฟังอย่างเดียว ซึ่งจะมีความแตกต่างกันเมื่อเวลาเปิดเพลง ถ้าเลือกเป็นโหมด Pressy เสียงเพลงก็จะออกที่ลำโพงเครื่องตามปกติ แต่ถ้าเลือกโหมดอื่นๆ เสียงก็จะออกทางช่อง 3.5 มิลลิเมตร
ขั้นตอนต่อไปก็คือการทดสอบใช้งาน Pressy โดยให้กดตามที่แอพแนะนำ ขีดสั้นคือให้กดสั้นๆ 1 ครั้ง ส่วนขีดยาวขึ้นไปก็ให้กดค้างไว้ โดยเมื่อกดปุ่มแล้ว ตัวเครื่องจะสั่นเป็นสัญญาณด้วยว่าเรากดแล้ว
โดยตอนเริ่มต้น แอพ Pressy จะมีตั้งค่ามาให้ 3 รูปแบบการใช้งานคือ
- กดยาว 1 ครั้งเพื่อสลับระหว่างโหมดปกติกับโหมดสั่น
- กดสั้น 2 ครั้งเพื่อเปิดแอพกล้อง (ยังไม่ถ่ายรูป)
- กดสั้น 1 ครั้งเพื่อเปิดไฟฉาย (ไฟแฟลชกล้องหลัง)
ซึ่งถ้าหากไม่พอใจ เราก็สามารถแตะเลือกอันที่ต้องการจะเปลี่ยน แล้วจัดการเปลี่ยนได้ หรือถ้าหากจะลบออกไปเลย ก็เพียงแค่เลือกหัวข้อที่ต้องการลบค้างไว้ แล้วเลื่อนไปทางขวา จากนั้นก็จัดการลบได้เลย ง่ายมากๆ
ส่วนภาพขวาจะเป็นตัวอย่างของหน้า Settings ที่ใช้ตั้งค่าทั่วไปของ Pressy ครับ โดยสามารถตั้งได้ว่าจะให้มีการแจ้งเตือนเมื่อเรากดคำสั่ง Pressy หรือไม่ จะให้มีการสั่นเมื่อกดปุ่มด้วยหรือเปล่า รวมถึงยังสามารถตั้งค่าการหน่วงเวลาเพื่อรับการกดได้ด้วย เช่นถ้าหากเราเป็นคนกดปุ่มค่อนข้างช้า ก็สามารถหน่วงเวลาเพื่อรอปุ่มถัดไปให้นานขึ้นได้ด้วย
จากภาพที่ 2 ปัจจุบันสามารถเลือกรูปแบบการใช้งานได้กว่า 14 แบบแล้ว
ส่วนถ้าหากต้องการเพิ่มคำสั่งเพื่อใช้งาน ก็ให้กดที่เครื่องหมายบวกตรงด้านบนขวาของแอพ ก็จะมาพบกับภาพซ้าย ที่จะให้เลือกว่าจะเลือกใช้งานอะไร มีตัวอย่างเช่น
- สามารถกดเพื่อโทรออกเบอร์ที่ตั้งค่าไว้
- ส่งข้อความ
- เปิดแอพกล้อง
- ถ่ายรูป โดยสามารถถ่ายได้ทั้งที่ปิดหน้าจออยู่ ซึ่งการถ่ายภาพแต่ละครั้งจะหน่วงเวลาประมาณ 3 วินาทีจึงจะเริ่มถ่าย เมื่อถ่ายเสร็จแล้วจะไปอยู่ใน Gallery ของแอพ Pressy เอง
- เปิด/ปิดไฟฉาย
- บันทึกเสียง
- เปิดกล้องวิดีโอ/ถ่ายวิดีโอ
- เปิดแอพที่ต้องการ ซึ่งสามารถเรียกเปิดแอพใดก็ได้ในเครื่อง
- เปิด/ปิด WiFi, 3G, Bluetooth, เล่นหรือหยุดเพลง
ซึ่งแต่ละตัวจะสามารถตั้งค่าได้ด้วยว่าจะให้สามารถทำงานได้แม้ปิดหน้าจออยู่หรือไม่ ก็นับว่าเป็นทูลที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้ดีพอสมควรเลยทีเดียวครับ สำหรับส่วนตัวผมคิดว่าช่วยทำให้เปิด/ปิด WiFi และเสียงได้เร็วดี ไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าจอก็สามารถทำได้ แต่จะลำบากหน่อยกับคนที่นิยมฟังเพลงกับมือถือผ่านหูฟัง เพราะต้องคอยเสียบๆ ดึงๆ Pressy ออกจากช่องหูฟังบ่อยๆ แถมการใส่และถอดยังค่อนข้างลำบากด้วยครับ ก็หวังว่าจะมีการปรับปรุงเพิ่มเติมในภายหลังล่ะนะ