ก้าวเดินตามความสำเร็จของ Finder สมาร์ทโฟนเพรียวบางเครื่องแรกที่สร้างชื่อเสียงให้ OPPO กับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเพรียวบางเครื่องใหม่ของโลก OPPO R5 ที่บรรจุเทคโนโลยีระดับสูงและสเปกระดับเรือธง ไว้ในเรือนร่างที่เพรียวบางเพียง 4.85 มม. นอกจากจะมีดีที่ความบางแล้ว OPPO R5 ยังเป็นนวัตกรรมใหม่แห่งวงการสมาร์ทโฟนด้วยการเลือกใช้วัสดุโลหะ Stainless Steel มาทำเป็นเฟรม แทนที่จะใช้อลูมิเนียมอัลลอยเหมือนอย่างสมาร์ทโฟนบอดี้โลหะเครื่องอื่นๆ
ข้อดีของ Stainless Steel คือมีความแข็งแกร่งสูงกว่า และสามารถนำมาผ่านกระบวนการ Micro-arc เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้ผู้ใช้งานเลิกกังวลไปได้เลยว่าเครื่องจะบิดงอในระหว่างการใช้งาน ลบภาพความทรงจำเดิมๆ ที่ว่าสมาร์ทโฟนหุ่นเพรียวจะต้องบอบบางไปได้เลย ผู้ใช้สามารถยัด OPPO R5 ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วลุกนั่ง ทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าตัวเครื่องจะงอ
ดูให้เห็นกับตา กับคลิปที่ทดสอบ OPPO R5 แบบโหดๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ R5 หันผลไม้ ตอกตะปูแทนค้อน และวาง R5 ไว้บนพื้นให้รถวิ่งทับ สุดท้ายแล้ว R5 จะมีชีวิตรอดจากการทดสอบครั้งนี้หรือไม่ เชิญติดตามชม
บางมาก และทนทานมาก
คงไม่ผิดหากจะบอกว่าชิ้นเฟรมของสมาร์ทโฟนนั้นเปรียบเหมือนกระดูกสันหลังของคนเรา และถ้าเฟรมไม่ได้ผลิตมาจากวัสดุที่แข็งแรงทนทานพอ สมาร์ทโฟนก็อาจจะบิดงอหรือแตกหักเสียหายได้แบบง่ายๆ และแนวคิดพื้นฐานของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนในปัจจุบันคือ การนำอลูมิเนียมอัลลอยมาทำเป็นเฟรม, เคส รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ ของสมาร์ทโฟน เนื่องด้วยคุณสมบัติความเหนียวและยืดหยุนของอลูมิเนียมอัลลอย
และสมาร์ทโฟนเครื่องยิ่งบาง ยิ่งมีเรื่องให้ต้องกังวลมากเป็นพิเศษกับการเซาะร่องบนเฟรมตัวเครื่อง เพื่อเป็นที่ติดตั้งช่องเสียบซิมการ์ด ช่องสำหรับติดตั้งปุ่ม Volume เพิ่ม/ลดเสียง และช่องสำหรับติดตั้งปุ่ม Power ซึ่งร่องเหล่านี้ยิ่งทำให้ความแข็งแกร่งของเฟรมลดลง และเป็นจุดอ่อนอย่างมากของสมาร์ทโฟนที่ใช้เฟรมอลูมิเนียมอัลลอย ด้วยเหตุนี้ OPPO จึงได้แสวงหาทางออกใหม่ ในการผลิตเฟรมสมาร์ทโฟนที่ให้ทั้งความแบนบาง และความแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน
เฟรม Stainless Steel ความแข็งแกร่งสูง
เพื่อแก้ปัญหาความบอบบางที่มีอยู่ในเฟรมอลูมิเนียมอัลลอยแบบเดิมๆ ทีมงานวิจัยและพัฒนาของ OPPO ได้ทำการทดสอบกับวัสดุที่หลากหลาย จนในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า เราต้องละทิ้งความเคยชินจากการใช้วัสดุอลูมิเนียมอัลลอยที่อยู่ในสมาร์ทโฟนหลายรุ่นในท้องตลาด เพื่อเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่มีความแข็งแกร่งทนทานสูงกว่าอย่าง Stainless Steel เพื่อการผลิต OPPO R5
วัสดุ Stainless Steel เกรดที่เราเลือกมาใช้ทำเฟรมของ OPPO R5 นั้น ได้ถูกนำมาผ่านกระบวนการเพิ่มค่าความแข็งให้ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 250HV* ซึ่งเป็นค่าความแข็งที่สูงกว่าอลูมิเนียมอัลลอยถึง 3 เท่า ขั้นตอนของเราประกอบไปด้วยการหลอมโลหะถึง 4 ครั้ง ผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณสมบัติของโลหะภายใต้สภาวะแรงกดดันสูงถึง 5 ครั้ง ผ่านกระบวนการผลิตถึง 55 ขั้นตอน และผ่านการขัดแต่งผิวโลหะถึง 1,000 ครั้ง กระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพื่อให้ได้วัสดุ Stainless Steel ที่มีคุณสมบัติดีพอที่จะมาเป็น ?กระดูกสันหลัง? ของ OPPO R5
และเพื่อให้เฟรมที่แข็งแกร่งบึกบึนมีความหรูหราน่าหยิบมาใช้งาน OPPO ได้ใช้กระบวนการชุบแข็ง PVD** ที่มีรูปแบบเฉพาะตัว เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ผิวโลหะ จากที่มีค่าความแข็งอยู่ที่ระดับ 250HV ให้ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 400HV ทำให้ผิวขอบข้างตัวเครื่องมีความทนทานสูงมากต่อริ้วรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นได้จากใช้งานสมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวัน โดยสมาร์ทโฟนอื่นๆ ที่ใช้เฟรมอลูมิเนียมอัลลอย มีค่าความแข็งอยู่ที่เพียง 80HV แต่ขอบข้างตัวเครื่องของ R5 มีความแข็งอยู่ที่ระดับ 400HV จึงมีความแข็งมากกว่ากันถึง 5 เท่า เปรียบเหมือนชุดเกราะชั้นดีที่ช่วยป้องกัน OPPO R5 จากความเสียหาย
ความทนทานที่เหนือระดับ ย่อมต้องการดีไซน์ตัวเครื่องที่เหนือระดับ
แค่เพียงเฟรม Stainless Steel ก็ยังไม่เพียงพอที่จะสร้างสมาร์ทโฟนที่เพรียวบางและแข็งแกร่งที่สุดในโลก OPPO ได้ใส่เทคโนโลยีทางด้านโครงสร้างเข้าไปใน OPPO R5 อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการวางเลย์เอาท์เฟรมแบบ C-Shape ที่ช่วยยืดอายุให้เฟรมถึง 7 เท่า และเพิ่มความแข็งให้เฟรมถึง 5 เท่า ทำให้ OPPO R5 มีความทนทานต่อแรงบีบอัดได้มากขึ้น
จุดเชื่อมต่อระหว่างเฟรมแบบ C-Shape กับเฟรมชิ้นกลางของตัวเครื่อง ได้ถูกเชื่อมติดด้วยกรรมวิธีการเชื่อมโลหะแบบ 3D ทั้งด้านหน้าและด้านข้างของจุดเชื่อม เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้โครงสร้างของเฟรม และผ่านการทดสอบความแข็งแกร่งโดยการกดทับด้วยน้ำหนัก 25 กก. เป็นจำนวนถึง 1,000 ครั้ง กดลงบนทั้ง 2 ด้านของเฟรม ซึ่งผลจากการทดสอบก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ถึงแม้ OPPO R5 จะเพรียวบาง แต่ตัวเครื่องไม่บิดงอจากการใช้งานอย่างแน่นอน
ด้วยโครงสร้างตัวเครื่องจากวัสดุ Stainless Steel ที่ผ่านกระบวนการเสริมความแข็งแกร่งแบบ Micro-arc และทนทานมากขึ้นด้วยเทคนิคการเชื่อมประสานชิ้นเฟรมแบบ 3D ทำให้ OPPO R5 เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของความแข็งแกร่ง และโดดเด่นด้วยความบางเพียง 4.85 มม.
* ค่าความแข็งมีหน่วยเป็น HV การทดสอบความแข็งของวัสดุ หรือที่เรียกว่าการทดสอบแบบ Vickers Hardness ถูกคิดค้นขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ นาม Robert L. Smith และ George E. Sandland
*** PVD (Physical Vapor Deposition) เป็นกระบวนการที่ทำให้อะตอม หรือโมเลกุลของวัสดุต้นแบบ หลุดมาเกาะอยู่ที่พื้นผิวของวัสดุอีกตัวหนึ่งที่เราต้องการปรับปรุงคุณสมบัติ อย่างเช่น การเพิ่มความแข็ง, เพิ่มความทนทานต่อรอยขีดข่วน, เพิ่มคุณสมบัติในการกระจายความร้อน หรือเพิ่มความทนทานต่อการเสื่อมสภาพ เป็นต้น