วันนี้เราก็มีรีวิว Powerbank มาฝากเพื่อนๆ กันครับ แต่ไม่ใช่ Powerbank ปกติทั่วไปนะครับ เพราะ Powerbank ที่เราจะนำมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันนั้น เป็น PowerBank สุดพรีเมียม หน้ากล่องนี่เคลมเลยว่าเป็น No.1 ในประเทศสหรัฐอเมริกากันเลยทีเดียว ซึ่งก็คือ PowerBank ยี่ห้อ Mophie นั่นเองครับ บอกเลยว่าพรีเมียมยันราคา เอาเป็นว่าแอดมินเห็นราคานี่ถึงกับติดสตั้นไป 5 วินาทีเลยล่ะ
แต่ก่อนจะเข้าสู่การรีวิว PowerBank Mophie ทั้งสองรุ่น ได้แก่ Powerstation Reserve และ PowerStation Plus 3X เรามาทำความรู้จักกับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ Mophie ก่อนดีกว่า ว่าทำไมถึงขายดีในประเทศสหรัฐอเมริกา
จุดเด่นของ mophie
- วัสดุที่ใช้เป็น Lithium-Polymer เกรด A ทำให้สามารถจ่ายไฟได้เต็มเม็
ดเต็มหน่วย พลังงานสูญเสียน้อยมาก ลดการเกิดอันตรายจากความร้ อนและการระเบิด - มี smart chart chip สามารถชาร์ตไฟได้กับอุปกรณ์ทุ
กประเภท ไม่ว่าจะเป็น bluetooth wearable gadget มือถือ iPad iPhone - มี cycle ในการชาร์ตได้มากกว่า 1000 รอบ จ่ายไฟได้เสถียร ทำให้ถนอม อุปกรณ์ต่างๆ ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุ
ปกรณ์นั้นๆ - มีการเรียงลำดับความสำคั
ญในการชาร์ต priority chart คือ เมื่อชาร์ต แบตเตอรี่กับโทรศัพท์พร้อมกัน แบตเตอรี่จะปล่อยให้ไฟไปชาร์ ตจนโทรศัพท์เต็ม ถึงจะกลับมาชาร์ตที่ ตัวแบตเตอรี่เอง - มีการ QC ถึง 3 ขั้นตอน ขั้นตอนละ 3 ครั้ง โดยใช้เวลาทั้งหมด 45 วัน
เอาเป็นว่าในเรื่องความปลอดภัยเนี่ย Mophie ค่อนข้างที่จะปลอดภัยและได้มาตรฐานเอามากๆ แต่ส่วนตัวผมว่าจุดเด่นของ Mophie ที่พอจะกระชากเงินในกระเป๋าตังของผมได้ จากการที่ได้ทดลองใช้จริงอยู่ที่ดีไซน์, วัสดุ และความสะดวกในการใช้งานมากกว่า
รีวิว Powerstation Reserve ราคา 2490 บาท
เห็นราคาของ Powerstation Reserve ที่ 2,490 บาท บางคนอาจจะคิดว่ามันมีความจุสูงเป็นหลักหมื่น mAh ใช่ไหมครับ แต่ความเป็นจริงแล้ว จุดเด่นของ Powerstation Reserve คือมีขนาดเล็ก แถมความจุก็ให้มาเพียง 1350mAh เท่านั้น บอกเลยว่าชาร์จ iPhone ไม่เต็มซักรุ่นแน่นอน
Powerstation Reserve มาพร้อมกับสายแบบ Lightning ในตัวชนิดที่ว่าติดอยู่กับตัว Powerstation Reserve และไม่สามารถใช้ชาร์จไฟมือถือ Android ได้ เนื่องจากหัวเป็น Lightning ครับ ถ้าอยากจะชาร์จแอนดรอยต้องไปหาแจ็คแปลงเป็น Micro USB เอานะ
ลักษณะของ Powerstation Reserve ออกแบบมาให้มีความเล็ก พกพาง่าย เอาไปห้อยกับพวงกุญแจก็ได้ เนื่องจากมีห่วงคล้องมาให้ตั้งแต่แรก โดยตัวห่วงคล้องจะใส่เข้ากับสาย Lightning แล้วก็จะมีตัวล็อคไม่ให้ Powerstation Reserve ร่วง บอกเลยว่าล็อคแน่น และเเข็งแรงเอามากๆ ครับ ถ้าไม่โดนขโมย รับรองว่าไม่มีการหล่นหายแน่นอน
ขนาดของ Powerstation Reserve อย่างที่บอกไปว่าค่อนข้างเล็ก น้ำหนักเบา ส่วนวัสดุจะเป็นวัสดุที่กันกระแทก และตอนชาร์จไฟสามารถจับประกบกับ iPhone ได้โดยที่ไม่ทำให้ตัวเครื่องเกิดรอยขีดข่วน
เวลาจะใช้งาน Powerstation Reserve ก็ให้กดที่ปุ่มด้านบน เพื่อเป็นการปลดสาย Lightning ออกจากห่วงคล้อง ส่วนช่องเสียบสาย Micro USB ข้างๆ กันนั้นเอาไว้สำหรับชาร์จไฟ Powerstation Reserve ครับ
สายชาร์จหน้าตาเป็นแบบนี้
การตรวจสอบว่า Powerstation Reserve เหลือแบตเตอรี่อยู่เท่าไหร่ ให้กดที่ปุ่มรูปแบตเตอรี่ด้านข้าง Powerstation Reserve ครับ
เมื่อกดรูปแบตเตอรี่แล้วก็จะมีไฟแสดงขึ้นมาที่ตัว Powerstation Reserve ว่าเหลือแบตอยู่กี่ขีด แต่ส่วนมากจะต้องชาร์จไฟทุกวันอยู่แล้ว เพราะความจุไม่ได้เยอะมากมายอะไรนัก
ลักษณะการพกพาก็จะเป็นแบบนี้ครับ
ชิคๆ แมนๆ เข้ากันกับพวงกุญแจ และ iPhone เอามากๆ
การใช้งาน Powerstation Reserve ตอนชาร์จไฟก็จะประมาณนี้ ด้วยน้ำหนักตัวที่เบา ทำให้ไม่เป็นปัญหาตอนพกพาเท่าไหร่ ส่วนเรื่องความจุเพียง 1300 mAh นิดๆ นั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Powerstation Reserve ออกแบบมาให้ยืดอายุการใช้งาน iPhone ไปได้อีก 60% หรือพูดง่ายๆ คือ เพียงพอที่จะทำให้ iPhone 6, iPhone 5s, iPhone 5 ใช้งานได้หมดวัน เนื่องจาก iPhone เหล่านี้มีแบตเตอรี่ที่น้อย ตกเย็นก็ต้องชาร์จไฟแล้ว
มาถึงตรงนี้ บางคนอาจจะบอกว่า Powerbank ยี่ห้ออื่นๆ ก็เติมไฟให้ iPhone ได้เหมือนกัน เผลอๆ จะเติมไฟได้มากกว่า Powerstation Reserve อีกต่างหาก แต่อย่าลืมไปนะครับว่าจุดเด่นของ Powerstation Reserve อยู่ที่ความสะดวกในการพกพา ด้วยขนาดตัวที่เล็ก และออกแบบมาให้พกพาง่าย แถมยังมีสาย Lightning ในตัวอีกต่างหาก จัดเป็น Powerbank ที่สะดวกเอามากๆ เลยครับ
เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ จ่ายไฟได้เร็วเอาเรื่อง กับความสามารถในการจ่ายไฟที่ 1.0 Amp แปบเดียวก็พร้อมลุยต่อแล้ว ส่วนราคาค่าตัวของ Powerstation Reserve ที่ 2,490 บาทเนี่ย ถือว่าเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ Powerbank ยี่ห้ออื่นๆ ที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาด แต่ก็อย่างที่ได้บอกไปครับ Mophie ขายในเรื่องของดีไซน์ แล้วก็เรื่องความปลอดภัยที่ตัวแบตเตอรี่ Lithium-Polymer เกรด A ที่เก็บประจุได้ดี สูญเสียพลังงานน้อยมาก ลดการเกิดอันตรายจากความร้
จุดเด่น
- แบตเตอรี่ Lithium-Polymer เกรด A
- ขนาดเล็ก พกพาสะดวก
- วัสดุ การดีไซน์ทำออกมาได้ดี พรีเมียมมาก
- มีสาย Lightning มาให้ในตัว
- ชาร์จเร็ว ปล่อยไฟได้ถึง 1.0 Amp
ข้อสังเกต
- ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับมิลลิแอมป์ที่ได้รับ
รีวิว PowerStation Plus 3X ราคา 4900 บาท
ถัดมาจะเป็น PowerStation Plus 3X พาวเวอร์แบงค์ขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย มีความจุที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่แค่ชาร์จ iPhone ได้ 60% เหมือน Powerstation Reserve ตัวข้างบน แต่ PowerStation Plus 3X จะสามารถชาร์จไฟ iPad ได้ด้วย โดยข้อมูลด้านหลังกล่องของ PowerStation Plus 3X จะบอกเลยว่าสามารถเพิ่มพลังให้กับ iPhone, iPad ได้เท่าไหร่
- ชาร์จ iPad ให้ใช้งานได้นานขึ้นอีก 5.5 ชั่วโมง
- ชาร์จ iPad Mini ให้ใช้งานได้นานขึ้นอีก 7.5 ชั่วโมง
- ชาร์จ iPhone ให้ใช้งานได้นานขึ้นอีก 35 ชั่วโมง (iPhone 6, iPhone 5s, iPhone 5)
- ชาร์จ iPod ให้ใช้งานได้นานขึ้นอีก 39 ชั่วโมง
PowerStation Plus 3X ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม ให้ความแข็งแรง ทนทาน ในขณะเดียวกันก็มีน้ำหนักเบา และมีขนาดที่ไม่ได้ใหญ่โตจนพกพาลำบาก
ปุ่มสำหรับกดเพื่อตรวจสอบแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ใน PowerStation Plus 3X ทางด้านบน
เวลาจะใช้งาน PowerStation Plus 3X ก็ต้องเปิดฝาก่อนครับ จากนั้นก็ดึงสาย Lightning ออกมาเสียบเข้ากับ iPhone, iPad, iPod
ส่วนอีกด้านจะเป็นสาย USB ขนาดปกติ เอาไว้สำหรับชาร์จไฟเข้า PowerStation Plus 3X
ตอนชาร์จไฟก็ประมาณนี้ครับ
จุดเด่นอีกอย่างของ PowerStation Plus 3X คือสามารถเสียบชาร์จพร้อมมือถือได้
แต่ที่เด็ดกว่านั้น PowerStation Plus 3X สามารถใช้งานเป็นสาย Sync ได้ด้วยครับ มีค่าเท่ากับเราเสียบสาย Lightning แบบปกติเลยครับ สามารถ Sync เพลง, รูปภาพ, App และภาพยนตร์ได้ตามปกติ
เรียกว่าตัวเดียวจบเลยครับ สำหรับการพกพาไปข้างนอก หรือใช้ตอนเดินทางก็ค่อนข้างเหมาะ อย่างตอนที่ผมไปต่างจังหวัดสองวัน พก PowerStation Plus 3X นี่สบายๆ ใช้เติมไฟตอนอยู่ข้างนอกก็ได้ พอกลับมาที่ห้องพักก็ใช้ PowerStation Plus 3X แทนสาย Sync iPhone กับคอมพิวเตอร์ก็ได้
การจ่ายไฟของ PowerStation Plus 3X ก็ทำได้ดี โดยจ่ายไฟได้แรงสูงสุดที่ 2.4 Amp เพียงพอที่จะต่อกับ iPad Air 2, iPad Mini ได้สบายๆ แต่เหมือนว่าจะมีชิปวงจรข้างในที่เลือกจ่ายไฟให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ได้ด้วยนะครับ ถือเป็นข้อดีมากๆ เนื่องจากอุปกรณ์บางชนิด หากได้รับกระแสไฟที่แรงเกินขนาด อาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับตัวเครื่องได้ เท่าที่ลองชาร์จ iPhone 6 Plus จากแบตเตอรี่ 20% ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีก็พบว่ามีได้แบตเตอรี่เพิ่มมาเป็น 90% เลยครับ
จุดเด่น
- วัสดุเป็นอลูมิเนียม มีน้ำหนักเบา และดูพรีเมียมมากๆ
- เก็บสายได้ในตัว ใช้งานสะดวก ไม่เกะกะ
- มีสาย Lightning ในตัว
- ชาร์จไฟได้เร็ว และมีชิปที่เลือกจ่ายไฟได้เหมาะสมกับอุปกรณ์
- แบตเตอรี่ของ PowerStation Plus 3X เป็น แบตเตอรี่ Lithium-Polymer เกรด A
- สามารถใช้แทนสาย Sync เชื่อมต่อ iPhone, iPad กับคอมพิวเตอร์ได้ในตัว
ข้อสังเกต
- ราคาค่อนข้างสูงสำหรับการเป็น Powerbank
**หมายเหตุ Powerbank ทั้งสองรุ่น ได้แก่ PowerStation Plus 3X และ Powerstation Reserve สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน iStudio ครับ**