HUAWEI Watch GT 3 Pro สมาร์ทวอทช์ระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ล่าสุดของ HUAWEI ในซีรี่ส์ Watch GT ที่เปิดตัวในงาน HUAWEI Flagship Product Launch 2022 มาพร้อมกับความสามารถระดับโปรที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน แถมยังมีความสามารถใหม่ในโหมดออกกำลังกายเพิ่มขึ้นมาด้วยทั้งโหมดดำน้ำและกอล์ฟ อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 14 วันอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ระดับไฮเอนด์ที่ไม่เหมือนใครจริงๆ โดยตัว HUAWEI Waych GT 3 Pro จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นคือรุ่น Titanium Edition ขนาด 46 mm. และรุ่น Ceramic Edition ขนาด 43 mm. และที่เราได้มารีวิวนั่นก็คือรุ่น Titanium Edition นั่นเอง โดยการใช้งานจะเป็นอย่างไรนั้นไปชมกันได้เลย
สเปค HUAWEI Watch GT 3 Pro
HUAWEI Watch GT 3 Pro Titanium Edition (46 mm.) | HUAWEI Watch GT 3 Pro Ceramic Edition (43 mm.) | |
---|---|---|
หน้าปัดนาฬิกา | ความสูง x กว้าง x สูง : 46.6 x 46.6 x 10.9 มม. หมายเหตุ : 10.9 มม. คือความสูงของส่วนที่บางที่สุด (จากพื้นผิวไปยังตัวเรือนด้านหลังของนาฬิกาไม่รวมพื้นที่เซ็นเซอร์) • วัสดุ: มีส่วนประกอบของไทเทเนียม + ฝาหลังเซรามิก + หน้าจอกระจกแซฟไฟร์ | ความสูง x กว้าง x สูง : 42.9 x 42.9 x 10.5 มม. หมายเหตุ : 10.5 มม. คือความสูงของส่วนที่บางที่สุด (จากพื้นผิวไปยังตัวเรือนด้านหลังของนาฬิกาไม่รวมพื้นที่เซ็นเซอร์) • วัสดุ: เซรามิกนาโนคริสตัลไลน์ + กระจกแซฟไฟร์ |
หน้าจอ | • หน้าจอสี AMOLED แบบวงกลม • ความละเอียด : 466 x 466 พิกเซล, 326 ppi • ขนาด : 1.43 นิ้ว รองรับการสัมผัสแบบเต็มหน้าจอ (รวมถึงการปัดขึ้น ลง ซ้าย และขวา, การแตะ และการแตะค้าง) | • หน้าจอสี AMOLED แบบวงกลม • ความละเอียด : 466 x 466 พิกเซล, 352 ppi • ขนาด : 1.32 นิ้ว รองรับการสัมผัสแบบเต็มหน้าจอ (รวมถึงการปัดขึ้น ลง ซ้าย และขวา, การแตะ และการแตะค้าง) |
ปุ่ม | ปุ่มเพาเวอร์, ปุ่มฟังก์ชัน, รองรับการทํางาน เช่นการกดค้างและหมุนปุ่มควบคุม | ปุ่มเพาเวอร์, ปุ่มฟังก์ชัน, รองรับการทํางาน เช่นการกดค้างและหมุนปุ่มควบคุม |
น้ำหนักตัวเรือน (ไม่รวมสาย) | ประมาณ 54 กรัม | ประมาณ 50 กรัม |
สายนาฬิกา | • วัสดุ : สายหนังสีเทา • ความกว้าง : 22 มม. (หลังจากคลายสายรัดจนสุด) | • วัสดุ : สายเซรามิคสีขาว • ความกว้าง : 20 มม. (หลังจากคลายสายรัดจนสุด) |
วัสดุสายนาฬิกา | สายสังเคราะห์สีดำ สายหนังสีน้ำตาลสายสเตนเลส สตีล | สายสังเคราะห์สีดำ สายสแตนเลสแบบถัก สีทอง |
ความยาวสายนาฬิกา | 140-210 มม. | 130–190 มม. |
การเชื่อมต่อ | บลูทูธ : บลูทูธ 5.2 รองรับ BLE / BR / EDR Wifi : รองรับ Wi-Fi 2.4 GHz ซึ่งใช้สําหรับการส่งผ่าน Bluetooth เท่านั้นและไม่รองรับการเชื่อมต่อกับเราเตอร์ รองรับการใช้งาน NFC | บลูทูธ : บลูทูธ 5.2 รองรับ BLE / BR / EDR Wifi : รองรับ Wi-Fi 2.4 GHz ซึ่งใช้สําหรับการส่งผ่าน Bluetooth เท่านั้นและไม่รองรับการเชื่อมต่อกับเราเตอร์ รองรับการใช้งาน NFC |
เซ็นเซอร์ | Accelerometer sensor Gyroscope sensor Magnetometer sensor Optical heart rate sensor Barometer sensor Temperature sensor | Accelerometer sensor Gyroscope sensor Magnetometer sensor Optical heart rate sensor Barometer sensor Temperature sensor |
การเล่นเพลง | รองรับ | รองรับ |
ลำโพง | รองรับ | รองรับ |
GPS | การระบุตำแหน่งแบบ Dual-band five-constellation | การระบุตำแหน่งแบบ Dual-band five-constellation |
ไมโครโฟน | รองรับ | รองรับ |
ระบบปฎิบัติการที่รองรับ | Android 6.0 หรือใหม่กว่า iOS 9.0 หรือใหม่กว่า | Android 6.0 หรือใหม่กว่า iOS 9.0 หรือใหม่กว่า |
โหมดการออกกําลังกาย | มากกว่า 100 โหมด | มากกว่า 100 โหมด |
มาตรฐานการกันน้ำ | มาตรฐานกันน้ำระดับ 5ATM | มาตรฐานกันน้ำระดับ 5ATM |
หน่วยความจำ | RAM 32MB + ROM 4GB | RAM 32MB + ROM 4GB |
ความจุแบตเตอรี่ | 530 mAh (ค่ามาตรฐาน) ใช้งานได้นานสูงสุด 14 วัน | 292 mAh ใช้งานได้นานสูงสุด 7 วัน |
เทคโนโลยีการชาร์จ | ชาร์จไร้สาย | ชาร์จไร้สาย |
อุปกรณ์ภายในกล่อง
สำหรับ HUAWEI Watch GT 3 Pro รุ่น Titanium Edition ขนาด 46 mm. ที่เราได้มานั้นตัวกล่องจะใช้วัสดุเป็นกระดาษแข็งสีดำ รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยที่ด้านหน้ากล่องจะมีรูปตัวสมาร์ทวอร์ช, ชื่อรุ่น, โลโก้ และข้อความ Powered by HarmonyOS เป็นการแสดงให้เห็นกันชัดๆ เลยว่าสมาร์ทวอร์ชเรือนนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS นั่นเอง ส่วนด้านหลังกล่องก็จะเป็นข้อมูลรายละเอียดต่างๆ และสำหรับภายในกล่องนั้นจะประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่องนาฬิกา
- แท่นชาร์จพร้อมสายเคเบิล
- คู่มือการใช้งาน
- ข้อมูลความปลอดภัย
- บัตรรับประกันสินค้า
ดีไซน์
HUAWEI Watch GT 3 Pro รุ่น Titanium Edition นั้นจะมาพร้อมตัวเรือนที่เป็นกรอบไทเทเนียม ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทนทานทั้งความร้อนและความเย็น (ส่วนรุ่น Ceramic Edition จะใช้กรอบเซรามิกสีขาว ตัดด้วยขอบสเตนเลสสตีลสีทอง) ส่วนกระจกหน้าปัดเป็นกระจก Sapphire ซึ่งมีน้ำหนักที่เบาและมีความทนทานที่สูง ทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ยาก
ตัวหน้าจอจะเป็นหน้าจอแบบ AMOLED ที่มีขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD ที่รองรับการใช้งานแบบสัมผัส
ที่ด้านหลังตัวเรื่อนนั้นเป็นเซรามิกแบบโค้ง ช่วยให้เวลาสวมใส่แล้วรู้สึกสบาย เป็นมิตรต่อผิวหนัง เพราะวัสดุจะปรับเปลี่ยนอุณหภูมิไปตามสภาพแวดล้อมโดยธรรมชาติ ซึ่งภายในจะมีการติดตั้งเซ็นเซอร์เอาไว้ใช้วัดค่าต่างๆ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ, ค่าออกซิเจนในเลือด, ค่าความเครียด รวมไปถึงคุณภาพการหลับนอน เป็นต้น
ตัวสายนั้นจะเป็นสายหนังสีเทา ทำให้สามารถเข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งใช้การล็อคสายกับข้อมือแบบหัวเข็มขัดเหมือนสายนาฬิกาข้อมือปกติ
ที่ด้านข้างฝั่งขวาของตัวเรือนจะมีปุ่มอยู่ทั้งหมด 2 ปุ่ม โดยจะมีปุ่มด้านบนเป็นปุ่มแบบเม็ดมะยมที่สามารถหมุนได้ สำหรับใช้เลื่อนหน้าเมนูและซูมเข้าออกเพื่อค้นหาแอปฯ และเมื่อกดค้างไว้จะเป็นการรีสตาร์ท และเปิด/ปิดตัวเครื่อง ส่วนปุ่มด้านล่างจะเป็นปุ่มสำหรับเข้าโหมดออกกำลังกาย อีกทั้งยังใช้เป็นเซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจอีกด้วย นอกจากนี้เมื่อมองไปยังบริเวณขอบด้านล่างจะเจอกับช่องลำโพงสปีกเกอร์สำหรับสนทนาหรือฟังเพลงอยู่ด้วย
การเชื่อมต่อ
ในการเชื่อมต่อกับ HUAWEI WATCH GT 3 Pro นั้นถ้าไม่ได้ใช้มือถือ HUAWEI ก็จำเป็นต้องไปโหลดแอปฯ HUAWEI Health มาติดตั้งก่อน ซึ่งใน Play Store มีให้โหลด เพียงแต่ตอนที่ได้เอามาลองใช้ยังไม่สามารถเชื่อมต่อตัว Watch GT 3 Pro กับแอปฯ ที่โหลดผ่าน Play Store ได้ ทำให้ต้องไปโหลดแอปฯ HUAWEI Health ผ่านทาง AppGallery แทน (หลังจากวางขายน่าจะเชื่อมต่อกับแอปฯ ที่โหลดผ่าน Play Store ได้แล้ว)
ในการเชื่อมต่อจะมีอยู่ 2 วิธีคือเชื่อมต่อโดยการกดเลือกรุ่นในหน้าแอปฯ หรือใช้วิธีอ่าน QR Code จากบนตัว Watch Gt 3 Pro เอา ซึ่งวิธีหลังง่ายกว่าเยอะ ซึ่งหลังจากทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ ก็จะสามารถเชื่อมต่อ HUAWEI Watch Gt 3 Pro กับตัวมือถือได้แล้ว
โดยหลังจากเชื่อมต่อแล้วตัวแอปฯ จะแสดงข้อมูลต่างๆ เอาไว้ในหนน้าอุปกรณ์ทั้งชื่อรุ่น, สถานะการเชื่อมต่อ และปริมาณแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังมีหัวข้อสำหรับเอาไว้เปลี่ยนหน้าปัด, จัดการเพลง, HUAWEI Wallet และอื่นๆ ด้วย
สำหรับหน้าแรกที่เป็นเมนูริมซ้ายสุดจะเป็นหน้ารวมผลสรุปต่างๆ เอาไว้ไม่ง่าจะเป็นจำนวนก้าว, ระยะทาง, พลังงานที่เผาผลาญ, อัตราการเต้นของหัวใจ, การนอนหลับ ฯลฯ ทั้งหมดจะสรุปรวมเอาไว้ในหน้านี้
ต่อมาคือหน้าที่ชื่อ ออกกำลังกาย โดยจะเป็นหน้าที่สรุปรวมกับการออกกำลังกายทั้งหมดที่เราทำไว้ในหน้านี้ นอกจากจะเก็บข้อมุลแล้วยังสามารถช่วยวางแผนการออกกำลังกายให้เราได้อีกด้วย โดยจะมีการแบ่งเป็นระดับตามความหนัก-เบา
การใช้งานและฟีเจอร์ต่างๆ
สำหรับหน้าปัดนั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนผ่านแอปฯ ซึ่งตัวหน้าปัดจะมีให้เลือกมากมายกว่า 10,000 แบบทั้งแบบฟรีและเสียเงิน แต่ที่ให้ฟีมาอยู่แล้วก็นับว่าเยอะเอามากๆ เลยทีเดียว แถมสวยๆ ทั้งนั้น นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าให้หน้าจอมีการใช้งานอยู่เสมอด้วย Always on Display ได้ออีกด้วย (ถ้าอยากให้แบตเตอรี่อยู่นานก็ควรปิดเอาไว้นะ)
สำหรับการใช้งานนั้นจากหน้าปัดนาฬิกาเมื่อกดปุ่มเม็ดมะยมจะเป็นการเข้าไปยังหน้ารวมเมนูที่มีอยู่ในตัวสมาร์ทวอทช์หรือย้อนกลับได้ และเมื่อหมุนเม็ดมะยมก็จะเป็นการซูมเข้า-ออก แต่ถ้ากดค้างเอาไว้จะเป็นการเปิด-ปิดและรีสตาร์ทตัวสมาร์ทวอทช์
ปุ่มด้านล่างเมื่อกดเข้าไปจะเป็นการเข้าสู่โหมดออกกำลังกายซึ่งภายในจะมีโหมดให้เลือกมากกว่า 100 โหมด โดยที่แสดงให้เห็นในหน้าแรกจะเป็นโหมดออกกำลังกายหลักๆ กว่า 18 โหมด เช่น โหมดวิ่ง โหมดเดิน โหมดปีนป่าย โหมดปั่นจักรยาน โหมดว่ายน้ำ และโหมดกระโดดเชือก เป็นต้น
เมื่อทำการปัดนิ้วลงมาจะเป็นหน้า Control Center ที่จะมีเมนู การตั้งค่า, ถ่ายน้ำออก, หาโทรศัพท์, ห้ามรบกวน, นาฬิกาปลุก และเปิดหน้าจอ รวมถึงแสดงสถานะการเชื่อมต่อบลูทูธ สถานะแบตเตอรี่ และวันเดือนปัจจุบัน และเมื่อทำการปัดขึ้นก็จะเป็นหน้ารวมการแจ้งเตือนต่างๆ ที่ผ่านมา เมื่อปัดหน้าจอไปทางซ้ายก็จะเข้าสูงหน้าจอแสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจ, แสดงผลค่าออกซิเจนในเลือด แสดงผลการนับก้าวเดิน, แสดงผลอุณหภูมิอากาศ, แสดงผลดวงจันทร์ขึ้น-ตก และแสดงผลการนอนหลับ และเมื่อปัดไปทางขวาจะเข้าสู่หน้าจอแสดงสภาพภูมิอากาศและเครื่องเล่นเพลง
สำหรับการวัดค่าต่างๆ นั้นเมื่อวัดเสร้จข้อมูลจะถูกซิงค์เข้าไปยังตัวแอปฯ ทันที ซึ่งภายในแอปฯ จะแสดงค่าต่างๆ ออกมาอย่างละเอียด อีกทั้งยังมีเกณฑ์ต่างๆ ชี้ชัดเอาไว้อย่างครบถ้วน
สำหรับการออกกำลังกายนั้นถ้าไม่ได้มีความรุ้อะไรมากตัวระบบก็สามารถเป็นไกด์ช่วยนำการฝึกได้ โดยที่เราต้องทำก็คือเข้าไปให้หน้าออกกำลังกายในแอปฯ เพื่อเซ็ตค่าต่างๆ ทั้งอายุ, น้ำหนัก ฯลฯ เพื่อให้ตัวแอปฯ ใช้เป็นเกณฑ์ในการแนะนำการออกกำลังกาย หรือถ้าเป็น Expert ที่รู้วิธีอยุ่แล้วก็สามารถเข้าไปเซ็ตค่าด้วยตัวเองได้ ซึ่งสามารถเว็ตได้ตั้งแต่ออกกำลังกายเบาๆ ไปจนถึงการเตรียมตัวสำหรับวิ่งฟูลมาราธอนเลยทีเดียว
และสิ่งที่นับว่าเป็นจุดเด่นของ HUAWEI Watch GT 3 Pro ก็คือโหมดดำน้ำหรือ Free Diving ที่รองรับการดำน้ำลึกสูงสุด 30 เมตร (ตัวเรือนสามารถกันน้ำที่ระดับมาตรฐาน 5ATM หรือความลึกประมาณ 50 เมตรนะ) ทั้งในน้ำจืดและน้ำทะเล มาพร้อมฟีเจอร์สุดอัจฉริยะคอยคำนวนระยะเวลาที่ควรขึ้นสู่ผิวน้ำ สามารถตั้งการแจ้งเตือนได้ทั้งระบบเสียงและระบบสั่น ติดตามและจัดเก็บข้อมูลทั้งจำนวนครั้งการลงดำน้ำ ระยะเวลาที่อยู่ใต้น้ำ ระยะเวลาที่พักบนผิวน้ำ รวมทั้งบอกระดับความลึกแบบเรียลไทม์ ความเร็วในการดำน้ำ และสถิติความลึกสูงสุดที่ดำน้ำได้ โดยสามารถดูรายละเอียดที่ครบรอบด้านยิ่งขึ้นผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI Health นอกจากนี้ยังมีโหมดฝึกกลั้นลมหายใจ (Apnea Training) และสอนก่อนการลงดำน้ำจริงอีกด้วย
อีกโหมดที่เป็นของใหม่ก็คือโหมด Golf ที่ช่วย⦁ ฝึกวงสวิงให้คมเหมือนมีโปรกอล์ฟมาเทรนให้และยังสามารถติดตามได้ทั้งท่วงท่า, ความเร็ว, จังหวะ และรายละเอียดอื่นๆ ของแต่ละวงสวิง พร้อมประเมินและให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์ด้วย
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นตัว HUAWEI Watch GT 3 Pro ในรุ่นขนาด 46 mm. มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 530 mAh (รุ่น 43 mm. มารพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 292 mAh นะ) ซึ่งทาง HAUWEI เคลมเอาไว้ว่าสามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 14 วัน ทว่าระยะเวลาขึ้นอยู่กับการใช้งานของเพื่อนๆ ถ้ามีการใช้งานบ่อยๆ หรือตลอดเวลา ระยะเวลาใช้งานรวมก็จะลดลงไปด้วยนั่นเอง ส่วนการชาร์จนั้นจะเป็นการชาร์จเร็วแบบไร้สายทีทาง HUAWEI เคลมว่าสามารถชาร์จจาก 0% – 100% ได้ภายในระยะเวลา 85 นาที แถมยังรองรับการชาร์จแบบ Reverse Charging อีกด้วย โดยให้แตะ HUAWEI Watch GT 3 Pro เข้ากับมือถือ HUAWEI ที่รองรับการชาร์จแบบ Reverse Charging เพื่อทำการชาร์จโดยไม่ต้องพึ่งแท่นชาร์จนั่นเอง
สรุปการรีวิว HUAWEI Watch GT 3 Pro
HUAWEI Watch GT 3 Pro สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุดของ HUAWEI ในซีรี่ส์ GT ที่อัดแน่นมาด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายเพื่อคนรักสุขภาพ พร้อมทั้งปลดขีดจำกัดในโหมดออกกำลังกายด้วยโหมดดำน้ำที่รองรับการดำน้ำลึกถึง 30 เมตร ทั้งน้ำทะเลและน้ำจืด กับโหมดกอล์ฟที่ช่วยติดตามการเคลื่อนไหวได้เหมือนมีมือโปรมาสอนอยู่ข้างๆ อีกทั้งฟีเจอร์ด้านสุขภาพที่จำเป็นต่อการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันทั้งการวัดค่าอัตราการเต้นของหัวใจและค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด, ติดตามคุณภาพการนอนหลับ, ตรวจวัดความเครียดแบบเรียลไทม์ ฯลฯ เรียกได้ว่าจัดเต็มทั้งด้านสุขภาพและการออกกำลังกายเลยทีเดียว แต่ที่น่าสนใจสุดก็คือฟีเจอร์ AI Running Coach ที่ช่วยวางแผน, เก็บสถิติ, วิเคราะห์ และปรับแผนการฝึกซ้อมให้อัตโนมัติในสัปดาห์ต่อไปได้ จนแทบจะทำหน้าที๋โค้ชส่วนตัวได้เลย นอกจากนี้ด้วยแบตเตอรี่ที่อยู่ได้ยาวนานสูงสุดถึง 14 วัน ยังช่วยให้การใช้งานสะดวกในทุกสถานการณือีกด้วย
สำหรับ HUAWEI Watch GT 3 Pro ขนาด 46 mm. ในรุ่น Titanium Edition นั้นจะมีราคาอยู่ที่ 11,990 บาท ซึ่งถ้าสั่งซื้อระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 ถึง 30 มิถุนายน 2565 ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada, JD Central และ Thisshop และแอปพลิเคชัน My HUAWEI รับไปเลยฟรีๆ หูฟังไร้สาย HUAWEI FreeBuds 4i มูลค่า 2,799 บาท หากต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ huawei.com/th