OPPO Reno11 F 5G น้องเล็กสุดของซีรี่ส์ Reno11 ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ “ถ่ายคนอย่างโปร” เพื่อคนที่อยากได้สมาร์ทโฟนที่โดดเด่นเรื่องการถ่ายพอร์ตเทรดแต่งบไม่เยอะ OPPO Reno11 F 5G จึงออกมาตอบโจทย์คนกลุ่มนั้นด้วยราคาค่าตัวเพียงหมื่นต้นๆ เท่านั้น ซึ่งการใช้งานจะเป็นอย่างไร เราไปดูกัน
สเปคของ OPPO Reno11 F 5G
- หน้าจอ : AMOLED 2.5D, ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด 2412 x 1080 พิกเซล (FHD+), Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 240Hz, 100% DCI-P3, 1.07 พันล้านสี, กระจก Panda glass
- ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 7050
- แรม : 8GB ชนิด LPDDR4X
- หน่อยความจำ : 256GB ชนิด UFS 3.1 รองรับ microSD สูงสุด 1 TB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 64 MP, f/1.7, AF (wide)
- ตัวที่ 2 : 8 MP, f/2.2, 112˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3 : 2 MP, f/2.4 (macro)
- กล้องหน้า : 32 MP, f/2.4
- แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับ 67W SuperVOOC 2.0
- ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 14 (Android 14)
- การเชื่อมต่อ :
- 5G NR
- Wi-Fi 6 Dual-band 2×2 MIMO
- Bluetooth 5.2
- GPS (L1), BeiDou (B1I), GLONASS (G1), Galileo (E1), QZSS (L1)
- NFC
- USB Type-C 2.0
- เซ็นเซอร์ :
- Fingerprint sensor
- Geomagnetic sensor
- Light sensor
- Proximity sensor
- Acceleration sensor
- Gravity sensor
- Gyroscope
- Step counting
- มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP65
- ขนาด : 161.1 x 74.7 x 7.54 มม.
- น้ำหนัก : 177 กรัม
- สี : สีเขียว Palm Green, สีฟ้า Ocean Blue, สีม่วง Coral Purple
- ราคา : 11,999 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
OPPO Reno11 F G นั้นมาด้วยดีไซน์ที่เรียกได้ว่าโดดเด่นทั้งลวดลายและสีสันโดยได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 สีคือ
- สีม่วง Coral Purple : ดำดิ่งสู่โทนสีม่วงอ่อนสุดหรูหราดุจปะการัง พื้นผิวเพชรที่เปล่งประกาย พร้อมลวดลายคล้ายควันลึกลับน่าค้นหา มอบดีไซน์สุดสวยงาม
- สีฟ้า Ocean Blue : เพลิดเพลินไปกับคลื่นสีฟ้าระยิบระยับ ราวกับแสงที่สาดส่องฟองคลื่นในท้องทะเล ให้คุณรู้สึกเหมือนสูดอากาศบริสุทธิ์ริมชายฝั่ง
- สีเขียว Palm Green : สำรวจความเขียวขจีอุดมสมบูรณ์ของป่าเขียวชอุ่ม สดใสและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ราวกับแสงเงาสีดำเหลือบเขียวที่ทะลุผ่านแมกไม้บนเกาะอันงดงาม
และสีที่ทางทีมงาน Spepchone ได้มาทำการรีวิวก็คือ สีฟ้า Ocean Blue ซึ่งบยอกเลยว่าสวยไม่ใช่น้อย ลวดลายเหมือนกำลังมองผิวน้ำที่กำลังทะท้องแสงแดดอยู่เลย
โดยที่ด้านหลังตัวเครื่องนอกจากลวดลายที่โดดเด่นแล้วโมดูลกล้องเองก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยโมดูลกล้องขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่แทบจะ 1 ใน 4 ของด้านหลังเครื่องไปเลย โดยภายในโมดูลขนาดใหญ่นั้นจะมีโมดูลวงกลมขนาดเล็กซ้อนอยุ่อีก 2 วง โดยวงหนึ่งจะเป็นโมดูลของกล้องหลัก ส่วนอีกวงจะมีกล้องอัลตร้าไวด์และกล้องมาโครอยู่ และที่ด้านข้างโมดูลวงกลมทั้ง 2 นั้นจะมีไฟแฟลช LED อยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อความอยู่ในโมดูลขนาดใหย่ด้วยว่า “INNOVATIVE AI CAMERA” โลโก้ OPPO อยู่ที่ส่วนล่างเครื่อง
สำหรับหน้าจอตัวเครื่องจะเป็นหน้าจอแบบ Punch Hole พาแนล AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ที่มีความละเอียด FHD+ และมีอัตรารีเฟรชที่สูงถึง 120Hz นอกจากนี้ยังครอบด้วยกระจก Panda Glass ซึ่งความเจ๋งของหน้าจอบน Reno11 F 5G คือขอบจอที่บางจัดทำให้ตัวเครื่องดูไม่หนาเกินไป
สำหรับขอบข้างจะเป็นขอบแบบเหลี่ยม ปุ่มทั้งหมดทั้งปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิด-ปิดจะรวมกันอยู่ที่ฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นช่องใส่ซิม ที่ด้านบนจะมีไมโคณโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนที่ด้านล่างจะมีลำโพงตัวเครื่อง, รูไมโคณโฟนและพอร์ตชาร์จอยู่
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการของ Reno11 F 5G นั้นจะมาเป็น ColorOS 14 ที่เป็น Android 14 ตั้งแต่แกะกล่องเลย ซึ่งตัว ColorOS 14 นี้จะมาพร้อม UI ที่มีดีไซน์ชื่อว่า Aquamorphic ซึ่งจะมีอนิเมชั่นต่างๆ ลื่นรไหลเหมือนน้ำ ทำให้เวลาเลื่อนแล้วดูสวยงามขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Smart Image Matting ที่สามารถตัดแต่งรูปภาพที่คุณชอบออกจากพื้นหลังเพียงคลิกเดียว ตัดวัตถุออกจากรูปภาพได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากนั้นนำไปไว้ในแอปอื่นๆ เพื่อแก้ไข บันทึก และแชร์ เรีกยได้ว่าเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้ ไม่จำเป็นต้องผ่านหลายๆ แอปฯ แล้ว
การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
ในเรื่องของการใช้งานนั้นสิ่งแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือการจับถือ ด้วยขนาดตัวที่ไม่ได้ใหญ่เกินไปทำให้สามารถจับถือได้ค่อนข้างสบายมือ และที่สำคัญคือน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างเบาทำให้ถือนานๆ แล้วไม่เมื่อยมือ นี่น่าจะเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งในจุดเด่นของ Reno11 F 5G เครื่องนี้เลยก็ว่าได้
ในเรื่องของความบันเทิงต่างๆ นั้นสำหรับการเล่นโซเชียลสามารถทำได้ดี ภาพมีความลื่นไหลสบายตา ส่วนการดูหนังหรือดูคลิปต่างๆ นั้นหน้าจอแสดงผลสีสันออกมาได้สวยสด เนียนตา แต่จุดที่น่าเสียดายก็คือลำโพงที่มาเพียงตัวเดียวเท่านั้น ทำให้อถรรสการฟังลดลงไปหน่อยหนึ่งถึงแม้ระดับเสียงที่ออกมาจะดังใช้ได้เลยก็ตาม (ถ้าใส่หูฟังอย่างเดียวไม่เปิดลำโพงก็ข้ามเรื่องนี้ไปได้เลย)
สำหรับแบตเตอรี่นั้นตัวเคื่องให้แบตเตอรี่มา 5000mAh ซึ่งจากที่ลองใช้มานั้นถ้าไม่ได้ใช้งานหนักหรือเล่นเกมบ่อย เน้นเล็นโวเชียลเป็นหลักกับมีหยิบมาถ่ายรูปบ้าง 2 วันค่อยชาร์จอาจมีให้เห็นได้ ส่วนในเรื่องการชาร์จนั้นตัวเครื่องมาพร้อมระบบชาร์จเร็วขนาด 67W ซึ่งเราได้ทำการทดลองชาร์จตอนที่แบตเตอรี่เหลือ 1% ก่อนที่เครื่องจะบังคับปิด ใน 10 นาทีแรกได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 18% ถึง 50% ภายในเวลา 29 นาที และเต็ม 100% ภายในเวลา 1 ชั่วโมง 9 นาที ซึ่งในระหว่างการชาร์จนั้นทั้งตัวอะแดปเตอร์และตัวเครื่องนั้นมีความร้อนสะสมในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ทำให้เวลาชาร์จอาจจะไม่เป็นไปตามที่ทาง OPPO เคลมเอาไว้ก็เป็นได้ (OPPO บอกว่าเต็ม 100% ใน 48 นาที)
การเล่นเกม
ในเรื่องของการเล่นเกมนั้น Reno11 F 5G มาพร้อมชิปประมวลผล Dimensity 7050 5G ที่เป็นชิประดับกลางของทาง MediaTek ซึ่งในด้านความแรงนั้นมันสามารถใช้เอล่นได้ทุกเกม แต่จะมีบางเกมโดยเฉพาะพวกเกมกินสเปคที่ไม่สามารถปรับกราฟิกสูงๆ ได้ ซึ่งเกมที่เรไาด้เอามาลองเล่นนั้นมีทั้งเกม RoV ที่เป็นเกมสามาัญไม่ค่อยกินสเปคและ Genshin Impact กับ Call of Duty War Zone ที่กินสเปคค่อนข้างมาก ซึ่ง Reni11 F 5G ก็สามารถเล่นได้หมดทุกเกม เพียงแต่ Genshin Impact ไม่ควรปรับกราฟิกเกินกว่าต่ำ ส่วน Call Of Duty War Zone ปรับได้มากสุดแค่กลางเท่านั้น ทำให้อาจจะไม่ได้เห็นภาพสวยๆ ของเกมเท่าไร เรื่องความร้อนตอนเล่นเกมนั้นถ้าไม่ใช่เกมหนักก็ใช้เวลาพอควรกว่าตัวเคื่องตะร้อน แต่พอเป็นเกมกินสเปคแล้วถึงจะปรับกราฟิกต่ำที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ความร้อนก็ขึ้นค่อนข้างเร็วอยู่ดี อย่างเกม Genshin Imapct เล่นไปได้ราวๆ 10 นาทีเอง ความร้อนก็ขึ้นจนรู้สึกได้แล้ว
การถ่ายภาพ
ในเรื่องของการถ่ายภาพนั้นสำหรับ Reno11 F 5G ถือเป็นหนึ่งในจุดที่โดดเด่นที่สุดของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ เพราะถึงแม้ Reno11 F 5G จะเป็นรุ่นน้องเล็กของซีรี่ส์ แต่ความสามารถในการถ่ายพอร์ตเทรตทั้งการประมวลผลภาพและฟีเจอร์ต่างๆ ก็ได้มาครบ โดยกล้องของ Reno11 F 5G นั้นจะประกอบไปด้วยกล้องหลัง 3 ตัวคือกล้องหลัก 64MP กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP และกล้องมาโคร 2MP นอกจากนี้ยังมีกล้องหน้าความละเอียด 32MP อีกด้วย เรียกได้ว่าให้มาค่อนข้างครอบคลุมต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว ไม่ว่าความคมชัดหรือการตัดขอบก็ทำออกมาได้ดีสมชื่อตระกูล Reno นอกจากนี้ Reno11 F 5G ยังรองรับการบันทึกวิดีโอที่ระดับ 4K 30fps ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้าอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปการรีวิว OPPO Reno11 F 5G
สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอาไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นบอกเลยว่า OPPO Reno11 F 5G น่าจะเป็นหนึ่งในเครื่องขวัญใจวัยรุ่นพอสมควรด้วยฟีเจอร์การถ่ายภาพที่ไม่ธรรมดา สามารถบันทึกวิดีโอได้ถึง 4K 30fps ทั้งกล้องหลังและหน้า ในราคาเพียงหมื่นต้นๆ โดนใจวัยรุ่นยุคใหม่สายคอนเท็นต์อย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากจะเด่นเรื่องกล้องแล้วการใช้งานด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะด้านความบันเทิงหรือการเลเกมก็ทำได้หมด ครบเครื่องทุกความต้องการแล้วจริงๆ
สำหรับคนที่สนใจ OPPO Reno11 F 5G นั้นรุ่นนี้จะมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 11,999 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ยังสามารถเอื้อมถึงได้สบายๆ โดยสามารถเข้าไปลองเล่นเครื่องได้ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ได้เลย หรือสามารถเข้าไปดูรายละเอียดก่อนได้ที่เว็บไซต์ oppo
จุดเด่น
- สีสันตัวเครื่องสวยสะดุดตามาก
- ราคาไม่ได้แพงจนเอื้อมไม่ถึง
- ชิป Dimensity 7050 สามารถใช้เล่นได้ทุกเกมจริงๆ
- ความจุเริ่มมาก็ 256GB เลย
- มาพร้อมชาร์จเร็ว 67W
- ได้มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น IP65
ข้อสังเกต
- ลำโพงเครื่องมีแค่ตัวเดียว
- ชิป Dimensity 7050 ถึงจะเล่นได้ทุกเกม แต่ไม่เหมาะกับการเปิดกราฟิกสูงๆ ในเกมกินเสปค