Samsung Galaxy Z Flip6 สมาร์ทโฟนแบบฝาพับรุ่นใหม่ล่าสุดของทาง Samsung ที่พึ่งเปิดตัวล่าสุด โดยรุ่นนี้นอกจากจะมีการปรับสเปคให้ทันสมัยมากขึ้นแล้วยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้ามาอีกด้วย ทำให้การใช้งานมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยราคาค่าตัวที่เพิ่มขึ้นมาหน่อยเช่นกัน ซึ่งหลังจากที่เอาไปลองใช้งานมาระยะหนึ่งแล้วการใช้งานต่างๆ จะเป็นอย่างไร เราไปชมกันได้เลย
สเปคของ Samsung Galaxy Z Flip6
- หน้าจอ :
- หน้าจอด้านนอก : Super AMOELD, ขนาด 3.4 นิ้ว, ความละเอียด 720 x 748 พิกเซล, ครอบทับด้วย Gorilla Glass Victus 2
- หน้าจอด้านใน : Flexible Dynamic AMOLED 2X, ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด 2640 x 1080 พิกเซล (FHD+), Refresh Rate 120Hz, ครอบทับด้วย Ultra Thin Glass (UTG)
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3
- แรม : 12GB ชนิด LPDDR5X
- ความจุ : 256GB / 512GB ชนิด UFS 4.0
- กล้องหลัง :
- กล้องตัวที่ 1 : 50MP, f/1.8, OIS (wide)
- กล้องตัวที่ 2 : 12MP, f/2.2, 123˚ (ultrawide)
- กล้องหน้า : 10MP, f/2.2
- แบตเตอรี่ : 4000mAh รองรับ 25W Adaptive Fast Charging , 10W Fast Wireless Charging และ 4.5W Reverse Wireless Charging
- ระบบปฏิบัติการ : One UI 6.1.1 บนพื้นฐาน Android 14
- การเชื่อมต่อ :
- 5G Dual-SIM
- Wi-Fi 6E
- Bluetooth 5.3
- GPS, Glonass, Beidou, Galileo, QZSS
- NFC
- USB Type-C 3.2 Gen 1
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer
- Barometer
- Fingerprint Sensor (ปุ่ม Power)
- Gyro Sensor
- Geomagnetic Sensor
- Hall Sensor
- Light Sensor
- Proximity Sensor
- มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP48
- ขนาด :
- เมื่อพับ : 85.1 x 71.9 x 14.9 มม.
- เมื่อกาง : 165.1 x 71.9 x 6.9 มม.
- น้ำหนัก : 187 กรัม
- สี :
- พื้นฐาน : Blue , Mint , Yellow และ Silver Shadow
- พิเศษ (สั่งออนไลน์) : Craft Black , Peach และ White
- ราคา :
- 12GB + 256GB : 42,900 บาท
- 12GB + 512GB : 47,900 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
สำหรับในเรื่องดีไซน์ภายนอกของตัวเครื่องนั้นเมื่อดูเผินๆ แล้วจะไม่ค่อยต่างจาก Galaxy Z Flip5 สักเท่าไร แต่ทว่าหากมองดีๆ แล้วจะจุดที่แตกต่างกันหลายจุดเลยทีเดียว อย่างแรกเลยก็คือสีตัวเครื่องที่คราวนี้ไม่ได้มีแค่เฉพาะบนฝาหลังเท่านั้น แต่ขอบตัวเครื่องเองก็มีสีเช่นเดียวกับตัวเครื่องด้วยเหมือนกัน นอกจากนี้ผิวสัมผัสของตัวเครื่องเองก็มีความด้านขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนอีกด้วย
สำหรับสีตัวเครื่องนั้นจะมีให้เลือกมากถึง 7 สี ซึ่งจะแบ่งเป็นสีพื้นฐานที่หาซื้อได้ทั่วไป 4 สี ได้แก่ Blue , Mint , Yellow และ Silver Shadow และสีพิเศษที่ต้องสั่งผ่านหน้าเว็บ samsung.com เท่านั้นอีก 3 สีคือ Craft Black , Peach และ White
สำหรับหน้าจอด้านนอกนั้นจะใช้หน้าจอเป็น Super AMOLED ที่ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus2 มีขนาดพื้นที่แสดงผลอยู่ที่ 3.4 นิ้ว โดยพื้นที่แสดงผลนี้จะกินพื้นที่เกือบทั้งหมดของฝาส่วนบน และมีเว้นพื้นที่สำหรับวางกล้องเอาไว้เล็กน้อย ทำให้เมื่อมองดูแล้วหน้าจอด้านนอกจะมีรูปลักษณ์คล้ายๆ ไอคอนโฟลเดอร์ สำหรับตัวกล้องนั้นจะมีการนูนขึ้นมาจากระดับพื้นผิวเล็กน้อยแล้วหุ้มขอบด้วยโลหะสีเดียวกับตัวเครื่อง และที่ด้านข้างกล้องทั้ง 2 ตัวก็จะมีไฟแฟลชอยู่ด้วย
สำหรับหน้าจอด้านในจะเป็นหน้าจอแบบพับได้ที่มีชื่อว่า Flexible Dynamic AMOLED 2X ครอบทับด้วย Ultra Thin Glass (UTG) มีขนาดพื้นที่แสดงผลอยู่ที่ 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ รองรับอัตรารีเฟรชที่ 120Hz พร้อมด้วยกล้องหน้าแบบ Punch Hole
สำหรับขอบข้างตัวเครื่องนั้นครั้งนี้จะมาด้วยดีไซน์ขอบเหลี่ยมพื้นผิวด้านที่มีสีตรวกับตัวเครื่อง (ยกเว้นสีพิเศษที่จะมาเป็นสีเงินหมดไม่ว่าตัวเครื่องจะสีอะไรก็ตาม) โดยปุ่มทั้งหมดจะอยู่ที่ฝั่งขวาของฝาด้านบนตัวเครื่อง ส่วนฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ซิมอยู่ ส่วนโลโก้ Samsung จะอยู่ที่สันบานพับ
Galaxy AI
ฟีเจอร์ Galaxy AI ใน Galaxy Z Flip6 นั้น โดยพื้นฐานจะมีฟีเจอร์เหมือนที่อยู่ใน Galaxy S24 Series ไม่ว่าจะเป็ฯฟีเจอรืแปลภาษา, ฟีเจอร์ถอดความ, ฟีเจอร์วงเพื่อค้นหาเป็นต้น แต่ทว่าใน Galaxy Z Flip6 ที่เป็นรุ่นใหม่นี้นั้นได้มีการปรับแต่งให้สามารถใช้งานควมคู่ไปกับหน้าจอทั้งสองได้ และยังมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Sketch to Image มาเพิ่มด้วย
ฟีเจอร์แรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือฟีเจอร์แปลภาาาที่ได้รับการอัปเกรดขึ้นจากที่แต่เดิมสามารถแปลได้ 13 ภาษา พอมาใน Galaxy Z Flip6 นั้นรองรับภาษาเพิ่มขึ้นเป็น 17 ภาษาแล้ว แถมด้วยความที่มีหน้าจอด้านนอก จึงสามารถเปลี่ยนให้คำแปลไปขึ้นที่หน้าจอด้านนอกแทน ช่วยเพิ่มความสะดวกในการสนทนาอย่างมาก เพราะไม่ต้องยื่นมือถือไปหาคนคุยด้วยอีกต่อไป
อีกฟีเจอร์ที่สามารถใช้ AI มาเสริมได้ก็คือกาปรรับแต่งหน้าจอด้านนอกให้เป็นไปในแบบที่เราต้องการ โดยเราสามารถใช้ AI สร้างภาพในแบบที่เราต้องการมาตั้งเป็นภาพหน้าจอได้ด้วย ซึ่งนี่จะช่วยเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ให้กับตัวเครื่องอย่างถึงที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Chat Assist มาช่วยในการตอบข้อความผ่านหน้าจอด้านนอกได้ด้วย ซึ่งนั่นจะทำให้ไม่ต้องกางหน้าจอเวลาจะตอบข้อความอีกต่อไป
สำหรับหนึ่งในฟีเจอร์ที่มีมาตั้งแต่แรกและเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับตัวเครื่องเลยก็คือ Portrait Studio ที่จะเปลี่ยนภาพถ่ายของเราให้มีความแตกต่างถึง 4 รูปแบบได้แก่ Comic, 3D Cartoon, Watercolor หรือ Sketch ช่วยเพิ่มสีสันให้ภาพได้อย่างมากเลยครับ
และท้ายที่สุดสำหรับฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Galaxy Z Flip6 ก็คือฟีเจอร์ Sketch to Image ซึ่งฟีเจอร์นี้จะให้เราวาดอะไรก็ได้บนภาพวาด แล้วตัว AI จะสร้างสิ่งๆ นั้นขึ้นมาในภาพ โดยตัว AI จะประเมินว่าเราวาดอะไรไปแล้วก็จะสร้างสิ่งนั้นออกมาโดยให้เข้ากับสภาพพื้นที่โดยรอบด้วย เรียกได้ว่าช่วยเติมสีสันให้กับภาพถ่ายได้พอสมควรเลย
การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
สำหรับในเรื่องของการใช้งานทั่วไปนั้น ในส่วนของการจับถือบอกเลยว่าดูดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน เพราะพื้นผิวแบบด้านทำให้ไม่ค่อยลื่นเท่ารุ่นก่อน ส่วนขนาดตัวเครื่องเรียกได้ว่าพอดีมือสามารถถือเล่นมือเดียวได้สบาย สำหรับการเล่นโซเชียลนั้นเมื่อกางจอออกด้วยความยาวของหน้อจอทำให้มีมุมมองยาวกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปเลยทำให้สามารถดูเนื้อหาได้เยอะกว่าเล็กน้อยด้วย แต่สิ่งที่ Galaxy Z Flip Series ทำได้มากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปเลยก็คือการใช้หน้าจอด้านนอกเล่นโซเชียลหรือดูคลิปนั่นเอง ซึ่งจากที่ได้ลองมาบอกเลยสะดวกสุดๆ เวลาขึ้นรถไฟฟ้าที่คนอันแน่น การที่ใช้หน้าจอด้านนอกดูคลิปช่วยเพิ่มความสะดวกในการจับถือได้อย่างมากเลย
สำหรับในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นตัวเครื่องให้แบตเตอรี่มาทั้งหมด 4000mAh ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนที่ให้มา 3700mAh และเมื่อผนวกรวมกับชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen3 รุ่นใหม่ ทำให้ตัวแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าที่เคย ซึ่งถ้าไม่ได้เอาไปเล่นเกมหนักๆ แบตเตอรี่ 4000mAh นี้สามารถอยู่ได้นานพอๆ กับสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ได้สบายเลย
ส่วนในเรื่องการชาร์จนั้นตัวเครื่องรองรับการชาร์จที่ 25W โดยเราได้ทดลองจับเวลาชาร์จตอนแบตเตอรี่เหลืออยู่ 2% แล้วในระหว่างชาร์จก็ไม่ได้ใช้งานด้วยแค่วางไว้เฉยๆ ในช่วง 10 นาทีแรกจะได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 20% และได้ 50% หลังจากผ่านไป 30 นาที ส่วนระยะเวลาชาร์จรวมตั้งแต่เริ่มจับเวลาจนแบตเตอรี่เต็มนั้นใช้เวลาไปถึง 1 ชั่วโมง 34 นาที
การเล่นเกม
ในเรื่องของการเล่นเกมนั้นเรียกได้ว่าหายห่วงสามารถใช้เล่นเกมได้ทุกเกมด้วยชิปประมวลผลเรือธงอย่าง Snapdragon 8 Gen 3 ซึ่งเราได้ลองเกมกินสเปคอย่าง Genshin Impact หรือ Zenless Zone Zero ด้วย ผลคือถึงจะปรับสุดก็เล่นได้ลื่นๆ สบายๆ เลยครับ เพียงแต่ด้วยความที่ตัวเครื่องเป็นแบบพับแล้วมีความบางอย่างมากทำให้เรื่องระบายความร้อนเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญ ซึ่งใน Galaxy Z Flip6 รุ่นนี้นั้นทาง Samsung ได้มีการใส่ระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber เพิ่มเข้ามาให้ ทำให้ตัวเครื่องสามารถระบายความร้อนได้ค่อนข้างเร็วกว่ารุ่นก่อนๆ ด้วยครับ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง
การถ่ายภาพ
ในเรื่องการถ่ายภาพนั้นคราวนี้อัปเกรดได้ถึงใจมากด้วยการเปลี่ยนกล้องหลักจากเดิม 12MP มาเป็น 50MP แทน ทำให้ทั้งรายละเอียดภาพ ความคมชัด หรือสีสัน ดูดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนแบบผิดหูผิดตาเลย ส่วนกล้องตัวที่สองที่เป็นกล้องอัลตร้าไวด์นั้นยังคงใช้กล้อง 12MP ตัวเดิมอยู่ครับ แน่นอนว่ากล้องหน้าที่อยู่ด้านในก็เช่นกัน เป็นกล้อง 10MP ตัวเดิมครับ แต่สิ่งที่เรียกได้ว่าน่าสนใจจริงๆ คือการที่ Samsung ใส่ฟีเจอร์ AutoZoom เข้ามาให้ ทำให้เวลาเราตั้งถ่ายรูปด้วยตัวเอง เราก็ไม่ต้องมาสัมผัสตัวเครื่องอีกแล้ว แค่เดินขยับระยะแล้วใช้ Palm Gesture ในการสั่งการถ่ายรูปก็พอ เรียกได้ว่าเพิ่มความสะดวกขึ้นอีกเยอะเลย
ส่วนในเรื่องคุณภาพของภาพถ่ายนั้นจากภาพที่ได้บอกเลยว่าดีด้วย ProVisual Engine แบบเดียวกับ Galaxy S24 Series ทำให้ภาพดูสวยเป็นธรรมชาติ เก็บรายละเอียดมาได้เยอะขึ้น ครอบคลุมทุกระยะการใช้งาน และครอบคลุมทุกสภาพแสงเลย
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปการรีวิว
จากการที่ได้ลองเล่น Samsung Galaxy Z Flip6 มาระยะสั้นๆ (ถึงจะแค่สั้นๆ) แต่บอกเลยว่ารุ่นนี้นั้นดีงาม ผู้ที่ใช้งาน Z Flip รุ่นก่อนๆ อยู่ เปลี่ยนมาเป็น Z Flip6 รับรองคุ้มครับ เพราะหลายๆ อย่างได้รับการอัปเกรดขึ้น ปัญหาบางอย่างที่คงอยู่มาในหลายๆ รุ่นก็ได้รับการแก้ไขหมด ถึงราคาค่าตัวจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ผู้เขียนก็มองว่าคุ้มอยู่ดีครับ
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยขึ้น
- ชิป Snapdragon 8 Gen 3 แรงและควบคุมความร้อนได้ดี
- แรมเพิ่มขึ้นเป็น 12GB
- อัปเกรดกล้องหลักมาเป็น 50MP
- เพิ่มแบตเตอรี่ขึ้นมาเป็น 4000mAh
- มีการใส่ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber เพิ่มเข้ามา
- ได้ Galaxy AI ครบทุกฟีเจอร์
- มีมาตราฐานกันน้ำ IP48
ข้อสังเกต
- ราคาค่าตัวเพิ่ม
- นอกจากกล้องหลักแล้วที่เหลือยังใช้ของเดิมอยู่
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปลองเล่นได้ที่ Samsung Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ได้เลยครับ และถ้าอยากได้สีพิเศาก็สามารถเข้าไปซื้อได้ที่เว็บไซต์ samsung.com ได้เลย