แม้ว่าช่วงนี้จะเริ่มใกล้เข้าสู่ช่วงเปิดตัว iPhone 16 ตามกำหนดการปกติที่ Apple มักจะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในเดือนกันยายนนี้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีหลาย ๆ ท่านที่ต้องซื้อ iPhone ในช่วงนี้พอดี ในบทความนี้เรามาดูกันครับ ว่าถ้ามีงบ 25,000 บาทจะมี iPhone รุ่นไหนน่าสนใจ น่าซื้อมาใช้บ้าง ทั้งเครื่องมือหนึ่งและมือสอง
ซื้อ iPhone มือหนึ่ง งบ 25,000
ในกรณีที่ถ้าต้องการ iPhone ศูนย์ไทยเครื่องใหม่มือหนึ่ง ถ้าคิดที่ราคาเต็มล้วน ๆ ตามหน้าเว็บไซต์ Apple ที่ยังมีจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปัจจุบัน จะมีรุ่นที่เข้าเกณฑ์ดังนี้
-
iPhone 13 ความจุ 128GB (หน้าเว็บ Apple)
-
iPhone SE (3rd รุ่นปี 2022) ได้ทั้งความจุ 64, 128 และ 256GB (หน้าเว็บ Apple)
ระหว่างสองรุ่นนี้ ถ้าให้แนะนำว่าจะซื้อมาเป็นเครื่องหลักสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แนะนำว่ามองไปที่ iPhone 13 น่าจะลงตัวกว่า ด้วยหน้าจอที่เป็นแบบ OLED ขนาด 6.1″ ความละเอียดสูง รองรับ HDR ในขณะที่ iPhone SE 3 จะยังเป็นจอ IPS ที่มีขนาด 4.7″ เท่านั้น ซึ่งมองตามตรงก็จัดว่าเล็กไปสำหรับการใช้งานในตอนนี้แล้ว เว้นแต่ว่าจะซื้อมาให้เด็ก ๆ ใช้งาน เช่นกรณีที่พ่อแม่ซึ่งใช้ iPhone เป็นหลักอยู่แล้ว ต้องการซื้อมือถือให้ลูกใช้ซักเครื่อง แบบที่ต้องการตั้งค่าการใช้งานแบบเป็นครอบครัว เพื่อการกำกับการใช้งานมือถือของลูกได้ง่าย จะตามตำแหน่ง แชร์คอนเทนต์ก็สะดวก หรือจะเป็นอีกกรณีที่น่าจะยังจำเป็นต้องใช้ iPhone SE อยู่ก็อาจจะเป็นสายพัฒนาแอปพลิเคชันที่ต้องการทดสอบแอปบน iPhone ที่ยังมีปุ่มโฮมอยู่ เป็นต้น
ด้านประสิทธิภาพ ทั้งสองรุ่นนี้จะมาพร้อมชิป A15 Bionic ทั้งคู่ ซึ่งความแรงยังเหลือเฟือ แรมก็ให้มาเท่ากันที่ 4GB จึงอาจจะยังรองรับการเล่นเกมได้แบบเต็มที่ได้อีกซัก 2-3 ปี ซึ่งก็น่าจะเป็นช่วงที่กำลังพอดี ๆ กับการเปลี่ยนมือถือรอบถัดไปแล้ว เนื่องจากถ้าพิจารณาจากอายุผลิตภัณฑ์ทั้งสองรุ่นนี้ในตลาดจนถึงปัจจุบันก็ราว 3 ปีแล้ว ถ้าบวกระยะเวลาใช้งานข้างต้นเข้าไปอีก ก็น่าจะมีอายุตลาด 6 ปี ซึ่งตกอยู่ในระยะผลิตภัณฑ์วินเทจของ Apple พอดี
ส่วนกล้อง ตรงนี้จะมีจุดต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือ iPhone SE 3 จะมีกล้องหลังเพียงกล้องเดียว ในขณะที่ iPhone 13 จะมีทังเลนส์หลักและเลนส์อัลตร้าไวด์สำหรับถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ ส่วนการถ่ายภาพ ทั้งสองรุ่นจะมีโหมด portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลมาให้ แต่ฝั่งของ iPhone 13 จะสามารถปรับระยะโฟกัสแบบจำลองได้ จึงน่าจะเป็น iPhone ที่เหมาะสำหรับการใช้ถ่ายภาพมากกว่า iPhone SE 2022 อยู่ประมาณนึง แถมถ้าใครที่เคยใช้ iPhone มาหลาย ๆ รุ่น จะพอทราบเลยว่ากล้อง iPhone 13 นั้นดีจริง จนหลายท่านยกให้เป็น iPhone ที่กล้องสวยสุด สวยกว่ารุ่นใหม่ ๆ ซะด้วยซ้ำ
ส่วนถ้าเทียบสองรุ่นนี้ในจุดอื่น ๆ จะมีข้อสังเกตดังนี้
-
iPhone SE ไม่มี UWB จึงไม่สามารถใช้งานร่วมกับ AirTag และผลิตภัณฑ์อื่นที่มีชิป U1 ได้ไม่เต็มที่
-
iPhone SE ไม่มี Face ID
-
iPhone SE มีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่น้อยกว่า และไม่มี MagSafe (ยังชาร์จไร้สายแบบวางกับแท่น ปกติได้)
-
iPhone SE 3 รองรับ IP67 ส่วน iPhone 13 จะรองรับ IP68
-
ทั้งคู่ไม่สามารถใช้งานระบบ AI (Apple Intelligence) ได้
ดังนั้นถ้าหากต้องการซื้อ iPhone มือหนึ่งในราคาไม่เกิน 25,000 บาท ฝั่งของ iPhone 13 128GB น่าจะเป็นทางเลือกที่ลงตัวที่สุดกับราคา 24,900 บาท แต่ถ้าต้องการความจุเยอะจริง ๆ เพื่อใช้เป็นเครื่องสำรอง ก็อาจจะต้องเลือกเป็น iPhone SE 2022 ที่จะได้เป็น 256GB ในราคา 23,900 บาท
แต่ถ้าดู iPhone มือหนึ่งจากร้านอื่น จริง ๆ แล้วเราจะมีทางเลือกอื่นเพิ่มอีกครับ เพราะหลายร้านจะมีจัดโปรราคาพิเศษอยู่เป็นระยะ ๆ อย่างในตอนนี้ก็สามารถหาซื้อ iPhone 14 128GB มือหนึ่งในงบ 25,000 บาทได้เลย แบบไม่ติดสัญญา ไม่บังคับซื้อแพ็คเกจมือถือด้วย แต่อาจจะมีตัวเลือกเรื่องสีสันที่น้อยลงนิดหน่อย ขึ้นอยู่กับสต็อกของแต่ละร้าน หรือถ้าต้องการเซฟเงินสุดจริง ๆ ก็ยังสามารถหา iPhone 11 เครื่องใหม่ค้างสต็อกก็ได้เช่นกัน ค่าตัวประมาณหมื่นกลาง ๆ แต่ส่วนตัวคงไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ เพราะสเปคตกรุ่นไปพอสมควรแล้ว ที่สำคัญคือได้ความจุแค่ 64GB เท่านั้นเอง จะมีบางร้านที่เหลือรุ่น 128GB ให้ซื้อบ้างแต่ราคาก็อยู่ที่ 14,900 บาท ตรงนี้อาจจะลองมองดู iPhone มือสองก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ เพราะสามารถหา iPhone 13 128GB สภาพสวย ๆ มาใช้ได้เลย
อีกแนวทางหนึ่งในการหา iPhone มือหนึ่งงบ 25,000 ก็คือการซื้อเครื่องพร้อมแพ็คเกจจากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ซึ่งตอนนี้ทั้งสองค่ายรายใหญ่ก็จะมี iPhone 15 Plus 128GB พร้อมให้ซื้อแบบติดแพ็คเกจในราคาประมาณ 24,400 บาท สัญญา 12 เดือน ซึ่งถ้าจะให้ได้ iPhone 15 Plus ในราคานี้ก็จะต้องเลือกแพ็คเกจรายเดือนราคา 1,699 บาทต่อเดือนขึ้นไปด้วย ส่วนถ้าเลือกแพ็ครายเดือนราคาต่ำกว่านี้ ก็จะบวกค่าเครื่องขึ้นไปจนทะลุ 25,000 บาทครับ แต่ถ้าจะให้เบาลงมาหน่อยก็จะมี iPhone 15 ที่สามารถซื้อพร้อมแพ็คเกจต่ำสุดเดือนละ 799 สัญญา 12 เดือน โดยที่ยอดค่าเครื่องรวมจะอยู่ที่ 24,900 บาท ชนงบที่ตั้งไว้แบบเกือบพอดี
ซึ่งถ้ามีแผนต้องการซื้อเครื่องแบบติดสัญญาแพ็คเกจในลักษณะนี้ ต้องการเปลี่ยนจากเบอร์เติมเงินเป็นรายเดือน หรือมีแผนจะย้ายเครือข่ายอยู่แล้ว การขยับมาเป็น iPhone 15 เลยก็น่าจะลงตัวที่สุด เพราะจะมีช่วงราคาของแพ็คเกจรายเดือนให้เลือกได้กว้างมาก ตั้งแต่ 699 บาทขึ้นไปเลย หรือถ้ามีแพ็คเกจเดิมอยู่แล้ว ก็อาจจะสามารถเลือกซื้อ iPhone ในราคาพิเศษแล้วใช้แพ็คเดิมต่อก็ได้ อันนี้แนะนำให้สอบถามรายละเอียดจากทางผู้ให้บริการจะชัวร์ที่สุด
สรุปถ้าต้องการซื้อ iPhone มือหนึ่งในงบ 25,000 บาท
- ถ้าต้องการเครื่องเปล่า แนะนำเป็น iPhone 13 128GB ขึ้นไป หรือถ้าหารุ่นใหม่กว่านี้ได้ก็ยิ่งดี
- ถ้าต้องการซื้อเครื่องพร้อมแพ็คเกจแบบติดสัญญา ซื้อแบบแพ็คย้ายค่ายเบอร์เดิม หรือแบบเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน แนะนำเป็น iPhone 15 128GB ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับยอดรายเดือนที่ต้องการ
ซื้อ iPhone มือสอง งบ 25,000
ส่วนถ้าอยากได้เป็น iPhone มือสอง แน่นอนว่าตัวเลือกก็จะมีมากกว่าเครื่องใหม่มือหนึ่ง ทั้งรุ่นและความจุ หรืออาจจะเจอเครื่องที่เจ้าของเก่าซื้อ AppleCare+ ติดไว้แล้วอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็น iPhone มือสอง จึงจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบสภาพเครื่องก่อนจ่ายเงินซื้อ เพื่อให้ได้เครื่องที่ตรงใจ ใช้งานได้ตามที่ต้องการในราคาที่ยอมรับได้กันทั้งสองฝ่ายที่สุด ซึ่งสำหรับการดู iPhone มือสอง และมือถือก็จะมีจุดหลัก ๆ ที่ควรตรวจสอบดังนี้
- หน้าจอ – มีรอยหรือไม่ แสดงผลปกติหรือเปล่า รวมถึงระบบปรับระดับความสว่างอัตโนมัติ สีสัน จุด dead pixel รวมถึงรอยหน้าจอเบิร์น ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่เป็นจอ OLED ที่จะมีในตั้งแต่ iPhone 12 ขึ้นมา
- ตัวเครื่องโดยรอบ – รอยขีดข่วน รอยบิ่น รอยกระแทก คราบรอบพอร์ตชาร์จ สภาพปุ่มกดว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่
- กล้องหลัง – มีรอยแตก มีฝุ่นอยู่ในกระจกครอบเลนส์หรือไม่ สามารถถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอได้ตามปกติหรือเปล่า การจับโฟกัสทำได้ตรงและเร็วขนาดไหน รวมถึงระบบ OIS กันสั่นและแฟลชว่าทำงานได้ปกติหรือไม่
- แบตเตอรี่ – ชาร์จไฟเข้าได้ปกติ แบตไม่ลดลงเร็วเกินไป และถ้าเป็น iPhone 15 ขึ้นมาก็สามารถกดดูสุขภาพแบตได้จากใน iOS เลย
- ระบบและการใช้งาน – ลื่นไหลปกติ ต่อ 5G/4G/Wi-Fi ได้ สามารถโหลดแอปจาก App Store ได้ รหัส serial number และ IMEI ของเครื่องตรงกับกล่อง (ในกรณีที่ผู้ขายแจ้งว่าตรงกัน)
- อุปกรณ์ในกล่องตามที่ผู้ขายระบุ
รวม ๆ แล้วก็จะเป็นการตรวจสอบสภาพภายนอก และระบบซอฟต์แวร์เท่าที่สามารถทำได้ แนะนำว่าควรหาสถานที่เช็คเครื่องที่มีแสงสว่างกำลังดี อยู่ในจุดที่มีคนพอสมควรแต่ก็ไม่พลุกพล่านจนเกินไป เพื่อจะได้มองเห็นตำหนิตัวเครื่องได้สะดวก จะลองกล้องก็ทำได้ง่าย แถมยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยด้วย
สำหรับรุ่นของ iPhone มือสองที่สามารถซื้อได้ในงบ 25,000 บาท เท่าที่ตรวจสอบจากตาม Facebook Marketplace และเว็บบอร์ดต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการซื้อขายมือถือมือสอง ก็จะมีรุ่นต่าง ๆ ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมในตลาดให้เลือกดังนี้
- iPhone 13
- iPhone 13 Pro Max ความจุ 128GB และ 256GB
- iPhone 14
- iPhone 14 Plus ความจุ 128GB
- iPhone 15 ความจุ 128GB
ส่วนรุ่นเก่ากว่านี้ ที่พอจะยังซื้อมือสองมาใช้งานในปัจจุบันได้อยู่ก็คือ iPhone 11 และ iPhone 12 แต่ส่วนตัวมองว่ามันค่อนข้างเก่าไปนิดนึง บวกเงินอีกหน่อยได้ iPhone มือสองรุ่นใหม่กว่า เพราะกลุ่มเครื่อง 5 รุ่นข้างต้นนี้มักจะตั้งราคาขายมือสองออนไลน์กันอยู่ในงบ 25,000 บาทอยู่แล้ว แถมได้สเปคใหม่กว่า อายุแบตน่าจะเหลือให้ใช้งานได้นานกว่าด้วย
ทีนี้ถ้าจะเลือกว่าจะซื้อรุ่นไหนดี หากตามกลุ่มข้างต้นก็จะจัดได้เป็นสามกลุ่มหลัก หนึ่งคือเครื่องรุ่นปกติที่จะมีให้เลือกทั้ง iPhone 13, iPhone 14 และ iPhone 15 ซึ่งถ้าต้องการซื้อ iPhone ในกลุ่มนี้ก็ค่อยไปดูต่อว่าที่มีลงขายไว้แต่ละเครื่องมีความจุเท่าไหร่ สภาพเครื่องเป็นอย่างไรบ้าง อย่างถ้าต้องการเน้นความจุเยอะหน่อยก็อาจต้องมาดูเป็นพวก iPhone 13 และ 14 ที่ความจุ 256 หรือ 512GB ซึ่งก็จะมีเครื่องที่ราคาอยู่ในงบเหมือนกัน แต่อาจจะหายากซักนิดนึงเพราะมีคนใช้น้อยกว่ารุ่นความจุ 128GB
กลุ่มต่อมาคือเครื่องจอใหญ่ ก็จะมี iPhone 14 Plus รุ่นเดียวเลย ที่ความจุ 128GB ซึ่งเท่าที่ลองดูแล้วส่วนใหญ่จะตั้งราคาขายมาแบบเต็มงบ 25,000 บาทพอดี และกลุ่มสุดท้ายก็คือเครื่องรุ่นโปรนั่นคือ iPhone 13 Pro และ Pro Max ที่มีให้เลือกพอสมควร เหมาะสำหรับคนที่ต้องการซื้อ iPhone แบบที่กล้องหลังมีเลนส์เทเลในราคาไม่เกิน 25,000 บาท เพราะเครื่องในกลุ่มนี้จะมีราคาวิ่งอยู่ในช่วงหมื่นปลาย ๆ ถึงสองหมื่นต้น ๆ เท่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพและความจุ แต่ก็อาจต้องเช็คเรื่องแบตเตอรี่และหน้าจอกันซักนิดนึง เพราะเป็นรุ่นที่มีความเสี่ยงจะเกิดอาการจอเขียวอยู่เหมือนกัน รวมถึงส่วนใหญ่น่าจะหมดประกันแล้วแทบทั้งนั้น จะมีเหลืออยู่บ้างก็คืออาจจะมีการซื้อแพ็คเกจ AppleCare+ ไว้
สรุปถ้าต้องการซื้อ iPhone มือสองในงบ 25,000 บาท
- รุ่นที่แนะนำ แน่นอนว่าเลือกรุ่นใหม่ ๆ ไว้ก่อน ก็มีโอกาสจะใช้งานในระยะยาวได้นานกว่า ในกรณีที่มีงบ 25,000 บาทเต็ม ๆ ก็ควรมองเป็น iPhone 15 หรือ iPhone 14 เอาไว้ก่อน
- อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับว่าต้องการ iPhone จอใหญ่หรือไม่ ต้องการความจุเครื่องเท่าไหร่ และที่สำคัญสุดคือสภาพเครื่อง ซึ่งควรต้องได้ตรวจสอบด้วยมือและตาของตนเองก่อนตัดสินใจจ่ายเงินทุกครั้ง
- ถ้าเป็นไปได้ ควรเลือกเครื่องที่ยังมีประกันเหลืออยู่ เผื่อเกิดปัญหา อย่างน้อยก็สามารถส่งเคลมศูนย์ได้
- ต้องตรวจสอบโปรไฟล์ผู้ขายอย่างละเอียดก่อนติดต่อ ก่อนนัดดูเครื่อง เพราะอาจมีมิจฉาชีพเข้ามาหลอกลวงได้ แต่ถ้าต้องการความสะดวก ก็ลองดูตามร้านตู้ที่ขาย iPhone มือสองก็ได้ครับ ราคาอาจจะสูงกว่าในออนไลน์นิดนึง แต่อย่างน้อยก็มีเครื่องให้เห็นจริงแน่ ๆ และดูเป็นหลักเป็นแหล่งขึ้นมาหน่อย