สมาร์ทโฟนที่กำลังมาแรงของซัมซุงในขณะนี้คงหนีไม่พ้น Samsung Galaxy A7 กับกล้องหลัง 3 ตัว เป็นครั้งแรกของซัมซุง และถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มากับกล้องหลังสามตัวที่ราคาถูกที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้ โดยเปิดตัวในราคาเริ่มต้นที่ 10,990 บาท เท่านั้น ไปดูสเปคและต่าง ๆ รีวิว Samsung Galaxy A7
รายละเอียดสเปค Samsung Galaxy A7
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2220 พิกเซล
- ขนาดตัวเครื่อง 159.8 x 76.8 x 7.5 มม. หนัก 168 กรัม
- ชิปประมวลผล CPU Octa-core 2.2 GHz Cortex-A53CPU Octa-core
- แรม 4 GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 64 GB
- รองรับ microSD สูงสุด 512 GB
- กล้องหลัง Triple Camera ความละเอียด 24 + 8 + 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/1.7
- กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.0
- รองรับ Dual SIM แบบ Triple Slot
- พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- แบตเตอรี่ขนาด 3,300 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Android Oreo 8.0
Design
ตัวเครื่องนั้นมากับหน้าจอขนาดใหญ่ 6 นิ้วใช้หน้าจออัตราส่วน 18.5 : 9 ที่ยังมีขอบด้านล่างและด้านบนอยู่ แต่ก็ไม่ได้มากับรอยบากหน้าจอเหมือนกับค่ายอื่น
ซึ่งซัมซุงเองยังยืนยันว่าไม่ชอบติ่ง น่าจะถูกใจใครหลายคน ด้านหน้านั้นไร้ปุ่ม ซึ่งปุ่ม Navigation ย้ายไปอยู่ในหน้าจอ โดยหน้าจอก็ตามสไตล์ซัมซุง มีสีสันที่สดใสด้วยจอ Super AMOLED
ส่วนด้านหลังตัวเครื่องนั้น บอกได้เลยว่าตัวจริงสวยมาก มีการเล่นลวดลายสะท้อนแสงตามองศาการหมุน ครอบด้วยกระจกที่โค้งตามมุมเล็กน้อย ให้สัมผัสที่ดี ซึ่งเราได้ทั้งสีน้ำเงิน และสีดำมารีวิว มันสวยยังไงดูได้จากภาพวิดีโอด้านล่างเลยครับ
ในส่วนตำแหน่งกล้องจะเรียงตัวเป็นแนวตั้งชิดขอบซ้ายบนของตัวเครื่องโดยมาพร้อมกับกล้องหลังสามตัวเป็นครั้งแรกของซัมซุง ซึ่งในกรอบของกล้องจะนูนออกมาเล็กน้อย และมี LED Flash อยู่ด้านล่างของกล้อง
หลายคนคงสงสัยว่าสแกนลายนิ้วมือนั้นหายไปไหน ทั้ง ๆ ที่มีอยู่ในสเปค บอกเลยว่าย้ายไปอยู่ที่ด้านข้างตัวเครื่องครับ จะอยู่กับปุ่ม Power ที่อยู่ด้านข้างของตัวเครื่องเลยโดยมากับปุ่มขนาดใหญ่เป็นพิเศษเพื่อรองรับฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือ
ส่วนด้านบนเป็นปุ่มเพิ่มลดเสียงปกติ โดยด้านข้างตัวเครื่องจะเป็นอะลูมิเนียมเฟรมมันวาวสีตามตัวเครื่องที่ให้สัมผัสแข็งแรงและมีความสวยงาม
ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเรียบเนียน จะมีเพียงถาดใส่ซิมแบบใช้เข็มจิ้ม ซึ่งเป็นถาดใส่ซิมแบบ Triple-Slot ด้วยนะ ใส่ microSD ได้โดยไม่ต้องแย่งที่ใส่ซิมการ์ดแล้ว
ส่วนด้านล่างเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ microUSB อยู่ และลำโพงขับเสียง และมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
โดยรวมแล้วการออกแบบทำได้สวยงามลงตัว หากใครที่ไม่ชอบหน้าจอติ่งรุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ แต่จะมีขอบหน้าจอที่หนาไปหน่อย ถ้าบางกว่านี้อีกจะสวยมาก เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านข้างทำให้ด้านหลังดูโล่ง สวยเลยทีเดียว
Camera
สำหรับจุดเด่นของ Samsung Galaxy A7 มากับกล้องหลังสามตัวเป็นครั้งแรกของซัมซุง ซึ่งเรียงตัวเป็นแนวตั้งเหมือนกับในภาพเนื่องจากฝ่ายออกแบบวิจัยแล้วว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุด โดยกล้องตัวบนสุด Dept เซ็นเซอร์ที่มาพร้อมกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซลมีรูปรับแสงกว้าง f/2.2 ส่วนกล้องกลางเป็นตัวหลักที่มากับความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล พร้อมกับออโต้โฟกัส มีรูรับแสงกว้าง f/1.7 และตัวสุดท้ายล่างสุดถือเป็นจุดเด่น เป็นเลนส์ Ultra Wide รุ่นแรกที่อยู่ในสมาร์ทโฟนซัมซุงโดยมีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 ที่ทำให้เก็บภาพในมุมมองกว้างสุดได้ถึง 120 องศา ที่สำคัญกล้องยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Scene Optimizer มากถึง 19 รูปแบบ (เอามาจาก Galaxy Note 9 เลยทีเดียว) ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ที่ 24 ล้านพิกเซลพร้อมกับรูรับแสงกว้าง f/2.0
เมื่อเข้าหน้าเมนูกล้องถ่ายภาพแบบอัตโนมัติก็จะมีไอคอนบริเวณด้านขวาในภาพ จะเป็นโหมดให้เลือกว่าเราจะถ่ายแบบไหน หากเป็นภาพปกติจะเป็นต้นไม้สองต้น แต่ถ้าเราจะถ่ายแบบมุมกว้างก็เลือกเป็นไอคอนต้นไม้สามต้นได้เลย กล้องก็จะปรับเป็นมุมกว้างทันที ซึ่งถือว่าสะดวกมาก ๆ แค่การกดครั้งเดียว
ภาพด้านบนคือการถ่ายภาพแบบปกติเลนส์มุมมองโหมดปกติ ที่เหมือนกับกล้องทั่วไป
เมื่อเราปรับเป็นโหมดภาพมุมมองกว้าง กล้องก็จะเก็บรายละเอียดได้มุมกว้างมากถึง 120 องศาทำให้เรามองเห็นมุมมองที่กว้างขึ้น เหมาะกับการถ่ายภาพวิวในพื้นที่จำกัด ซึ่งจากภาพด้านบนทั้งสองภาพอยู่ตำแหน่งเดิม ไม่ได้ขยับไปไหนเลย จะเห็นว่าเก็บภาพได้กว้างกว่ามาก ๆ ทำให้การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์สวยขึ้นมาทันที
จากภาพถ่ายทั้งหมด อยู่ในตำแหน่งเดิม ไม่มีการขยับใด ๆ เปลี่ยนแค่โหมดในการถ่ายภาพเท่านั้น จะเห็นได้ว่ากล้องเก็บมุมมองได้กว้างขึ้นมาก สามารถเก็บภาพในมุมแคบ หรือพื้นที่จำกัดได้อย่างสวยงาม ถือเป็นอีกฟีเจอร์สำคัญสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพ
Samsung Galaxy A7 ยังสามารถถ่ายภาพวีดีโอในโหมด Ultra Wide ได้อีกด้วย ซึ่งมีซอฟต์แวร์ช่วยในการกันสั่น ถึงแม้จะไม่เนียนเท่า OIS แต่ก็ยังดีกว่าไม่มี ไปดูอย่างได้ที่วิดีโอด้านล่างได้เลยครับ
อีกฟีเจอร์ที่สำคัญก็คือ Scene Optimizer ที่เราคุ้นเคยกันในนาม AI ช่วยถ่ายรูปที่จะทำให้ภาพถ่ายสวยเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เราถ่ายอยู่ ซึ่งเป็นฟีเจอร์เดียวกันที่อยู่ใน Samsung Galaxy Note 9 เลยทีเดียว มี Scene มากถึง 19 รูปแบบ ยกตัวอย่างจาก UI กล้องด้านล่างภาพ ที่จะเป็นไอคอนที่เปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมของภาพนั้น ๆ ถือว่าทำได้รวดเร็ว และภาพออกมาสีสวย ไปดูตัวอย่างจากกล้องหลังได้เลยครับ
ตัวอย่างจากกล้องหลัง Samsung Galaxy A7
Software & Performance
Samsung Galaxy A7 มากับชิปประมวลผล Exynos 7885 CPU Octa-core (2×2.2 GHz Cortex-A73 & 6×1.6 GHz Cortex-A53) และชิปประมวลผล GPU Mali-G71 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลระดับกลาง ๆ ที่สามารถใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้อย่างเหลือเฟือ ไม่ว่าจะโซเชียลมีเดีย หรือเล่นเกม ROV PUBG ก็เล่นได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งรุ่นที่เราได้มารีวิวเป็นรุ่นแรม 4 GB รอม 64 GB (มีให้ใช้จริง ๆ ประมาณ 50 GB) ถือว่าเพียงพอแล้วในการใช้งานในปัจจุบัน สลับแอปพลิเคชั่นได้แบบลื่น ๆ แต่ถ้าใครอยากจัดเต็มกว่านี้ จะมีรุ่นที่มีแรม 6 GB และรอม 128 GB วางขายในวันที่ 30 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ให้ใช้กันแบบยาว ๆ ไปเลย
ในส่วนของ UI นั้นก็ดีไซน์แบบเรียบง่ายตามสไตล์ซัมซุงเลยครับ ซึ่งซอฟต์แวร์เป็น Android 8.0 Oreo ใช้งานง่ายแม้เป็นมือใหม่
ในส่วนของการตั้งค่าจะเน้นสีขาว เพื่อมองเห็นได้ง่าย
ทดสอบเล่นเกม ROV สังเกตจาก FPS ด้านบน เล่นแบบลื่น ๆ เลยที่ FPS 50 ขึ้นไป แต่ตอนบวกกันที่เอฟเฟคเยอะ ๆ อาจจะมี 40 ขึ้นไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้กระตุกจนน่าหงุดหงิด
Overall
สิ่งที่ประทับใจใน Samsung Galaxy A7 มากที่สุดคงจะเป็นกล้องหลัง Triple Camera ที่มากับเลนส์ Ultra Wide ทำให้การถ่ายภาพสนุกมากขึ้น เพิ่มมุมมองใหม่เข้ามา และทำออกมาได้ประทับใจเมื่อเทียบกับราคาประมาณหนึ่งหมื่น ที่สำคัญยังมาพร้อมกับสเปคแบบจัดเต็ม ทั้งหน้าจอ Super AMOLED ความละเอียดระดับ Full HD แรม 4 GB รอม 64 GB เป็นสเปคที่เพียงพอกับการใช้งานในปัจจุบัน และการดีไซน์หรูหราด้วยกระจกทั้งตัวเครื่อง ฝาหลังเล่นลวดลายสะท้อนแสงสวยงาม ทั้งหมดนี้ในราคาหมื่นต้น ๆ เท่านั้น โดยรวมแล้ว เหมาะกับผู้ที่ชอบถ่ายภาพวิว หรือแนวสตรีทในมุมมองแคบ ๆ Galaxy A7 จะทำให้การถ่ายภาพดูครบทั้งมุมมอง และประสิทธิภาพของกล้องที่ดีอยู่แล้ว ส่วนการใช้งานทั่วไปก็ทำได้แบบลื่น ๆ หายห่วงเลยครับ
ข้อดี
- เป็นซัมซุงที่มีสเปคและราคาคุ้มสุดในตอนนี้
- กล้อง Ultra Wide ทำให้เปิดมุมมองถ่ายภาพที่กว้าง และสวย
- ตัวเครื่องออกแบบสวยงามด้วยฝาหลังเล่นลวดลายคลื่นสะท้อน
- Galaxy Gift ยังคงให้ความคุ้มค่าเหมือนเคย
- หน้าจอสีสด ละเอียด และไม่มีติ่ง
- รองรับ microSD สูงสุด 512 GB
- ถาดซิมแบบ Triple Slot ไม่ต้องแย่งพื้นที่ซิม
ข้อสังเกต
- กล้องโหมด Ultra Wide ไม่มีโฟกัส
- ราคานี้ควรเป็นพอร์ต USB Type-C ได้แล้ว
- ไม่รองรับ Fast Charge