Samsung Galaxy A01 Core เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กสุดที่พึ่งจะเปิดตัวมาได้ไม่นาน เรียกได้ว่าเป็นมือถือระดับเริ่มต้นเลยก็ว่าได้ครับ มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android Go Edition ที่กินทรัพยากรเครื่องน้อยมาก สมกับที่เป็นมือถือสายประหยัด กับราคาค่าตัวเริ่มต้น 2,499 บาท จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ติดตามได้ในรีวิว Samsung Galaxy A01 Core ได้เลยครับ
สเปค Samsung Galaxy A01 Core
- หน้าจอ PLS TFT LCD ขนาด 5.3 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1480×720 พิกเซล) อัตราส่วน 18.5:9
- ชิปประมวลผล Mediatek MT6739WW Quad-core 1.5GHz Cortex-A53
- GPU PowerVR GE8100
- RAM 1GB + ROM 16GB (เครื่องรีวิว) และมีรุ่น RAM 2GB + ROM 32GB
- รองรับ microSD สูงสุด 512GB
- กล้องหลัง 8MP, f/2.2, AF
- กล้องหน้า 5MP, f/2.4
- รองรับการใช้งานสองซิม (nano SIM)
- เครือข่าย 2G GSM / 3G WCDMA / 4G LTE FDD / 4G LTE TDD
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4 GHz), Wi-Fi Direct, ปล่อย Wi-Fi hotspot
- Bluetooth 5.0, A2DP, LE
- เทคโนโลยีระบุพิกัด A-GPS
- แบตเตอรี่ 3,000 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 Go Edition
- Galaxy A01 Core ราคาเริ่มต้น 2,499 บาท
Samsung Galaxy A01 Core ราคาเท่าไหร่
สำหรับราคาของ Samsung A01 Core จะมีด้วยกัน 2 รุ่นย่อย และมีราคาดังนี้ครับ
- RAM 1GB + ROM 16GB ราคา 2,499 บาท
- RAM 2GB + ROM 32GB ราคา 2,999 บาท
รีวิว Samsung Galaxy A01 Core – ดีไซน์ การออกแบบ
วัสดุตัวเครื่องของ Samsung Galaxy A01 Core ใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นพลาสติกที่มีน้ำหนักเบา ฝาหลังเป็นพลาสติกชิ้นเดียว ไม่สามารถถอดฝาหลังเองได้ และแน่นอนว่าไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ด้วยตัวเอง ด้านหลังตัวเครื่องมีลวดลายทันสมัย แบบเดียวกับ Galaxy A รุ่นอื่น ๆ
เครื่องรีวิว Samsung Galaxy A01 Core ที่ได้รับมานั้นเป็นตัวเครื่องสีดำ และนอกจากสีดำที่วางจำหน่ายในประเทศไทยอีกสีก็ได้แก่ สีน้ำเงิน จุดสังเกตอีกอย่างของ Galaxy A01 Core ตรงฝาหลังก็คือ ผิวสัมผัสเป็นแบบด้าน และการที่ทำลวดลายบริเวณฝาหลัง ช่วยให้การจับถือตัวเครื่องสะดวกมากขึ้นอีกด้วย
ด้านหน้าประกอบไปด้วยหน้าจอ PLS TFT LCD ขนาด 5.3 นิ้ว ในอัตราส่วนหน้าจอแบบคลาสสิก 18.5:9 ความละเอียด HD+ สีสันหน้าจอ ความคมชัด ส่วนตัวผมรับได้กับราคาเริ่มต้น 2,499 บาท
ด้านบนหน้าจอประกอบไปด้วยลำโพงสำหรับสนทนา และกล้องหน้าความละเอียด 5MP เซ็นเซอร์ภายในมีเพียง Accelerometer สำหรับตรวจจับการหมุนหน้าจออัตโนมัติ และ Virtual Proximity Sensing สำหรับตรวจจับระยะห่างของโทรศัพท์กับใบหน้าผู้ใช้ ส่วนเซ็นเซอร์วัดแสงหน้าจออัตโนมัติไม่มีในโทรศัพท์รุ่นนี้ แต่จะอาศัยการตรวจจับแสงโดยรอบด้วยกล้องหน้า เมื่อเปิดหน้าจอสมาร์ตโฟนครั้งแรกแทน
ด้านข้างขวาของตัวเครื่องเป็นปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิด – ปิดหน้าจอ ส่วนบริเวณด้านซ้ายจะเป็นถาดใส่ซิมแบบ 3 Slot รองรับการใช้งานร่วมกับ 2 นาโนซิม และสามารถเพิ่มความจุด้วย microSD Card ได้สูงสุดถึง 512GB
บริเวณขอบด้านล่างเป็นศูนย์รวมของพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ ได้แก่ พอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อ + ชาร์จไฟแบบ micro USB 2.0 และลำโพงหลักของตัวเครื่อง
ภาพรวมในด้านการออกแบบตัวเครื่อง ก็ถือว่าตามมาตรฐานของโทรศัพท์รุ่นเริ่มต้นล่ะครับ เป็นไปตามราคาค่าตัว 2,499 บาท วัสดุตัวเครื่องเป็นพลาสติก แต่ที่น่าชื่นชมก็คือเรื่องงานประกอบ ที่ทำออกมาได้แน่นหนา แข็งแรงทีเดียว
ระบบปฏิบัติการ Android 10 Go Edition แตกต่างจากปกติยังไง?
สำหรับระบบปฏิบัติการของ Samsung Galaxy A01 Core รุ่นนี้มาพร้อมกับ Android 10 ที่ไม่ใช่เวอร์ชั่นปกติ แต่เป็น Android 10 Go Edition ที่ออกแบบมาสำหรับโทรศัพท์ที่สเปคไม่สูงมาก เน้นความสามารถในการใช้งานพื้นฐาน อะไรไม่จำเป็นตัดทิ้งให้หมด เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลมากที่สุด
ไม่เพียงแต่ระบบปฏิบัติการที่ตัดโน่นนี่ออกจนแทบจะหมด แอปพลิเคชั่นพื้นฐานในตัวเครื่อง ยังเป็น Lite version หรือถ้าเป็นแอปพลิเคชั่นของฝั่ง Google เช่น Youtube, Maps, Gmail จะเป็น Go Edition ทั้งหมด และแน่นอนว่าฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น ถูกตัดทิ้งออกทั้งหมดเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างของแอปที่เป็น Lite version เช่น แกลเลอรี่ Lite ที่ทำได้แค่ดูรูป และครอปภาพ ไม่สามารถแต่งภาพได้ หรือถ้าเป็นแอป Go Edition เช่น Youtube Go จะต้องเลือกความละเอียดก่อนเล่นวิดีโอ เป็นต้น ส่วนตัวผมได้ลองโหลดแอปพลิเคชั่น Youtube ปกติมาใช้งานแล้ว พบว่ามีความหน่วงพอสมควร แนะนำให้ใช้แอป Go Edition จะดีที่สุดครับ
ด้านความปลอดภัย โทรศัพท์รุ่นนี้รองรับการตั้งรหัสเพื่อใช้ในการปลดล็อกตัวเครื่อง ทั้งการตั้งรหัสที่เป็นตัวเลข หรือจะเป็นการลากเส้น แต่ไม่มีตัวช่วยในการปลดล็อกหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หรือระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า แต่ทดแทนได้ด้วยฟีเจอร์ Smart Lock ที่เลือกให้ตัวเครื่องไม่ล็อกเมื่ออยู่ที่บ้าน หรือเมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บลูทูธ
Galaxy A01 Core รีวิวกล้อง
กล้องหลังของ Samsung A01 Core มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 มีระบบออโต้โฟกัส และมีแฟลช LED มาให้จำนวน 1 ดวง ฟีเจอร์ในการถ่ายภาพเน้นที่โหมด Auto เป็นหลัก ตั้งหน่วงเวลาได้นานสุด 10 วินาที แสดงจุดตัดเก้าช่องได้ และมีเพียงการใส่ฟิลเตอร์เพื่อเปลี่ยนโทนสีภาพถ่ายเท่านั้น
กล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4 เป็นแบบ Fixed Focus ใช้แสงหน้าจอแทนแฟลชได้ พร้อมความสามารถในการใส่ฟิลเตอร์ และปรับแต่งใบหน้าสวยได้ แต่ก็ไม่ได้ปรับละเอียดมากนัก
ส่วนการบันทึกวิดีโอทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง บันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p สามารถปรับให้ขนาดวิดีโอเป็นแบบเต็มจอได้ คุณภาพของวิดีโอก็ตามราคาครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Galaxy A01 Core
การใช้งาน ประสิทธิภาพ และแบตเตอรี่
ด้วยสเปคที่ตั้งใจทำมาเพื่อผู้ที่เริ่มต้นใช้งานสมาร์ตโฟน เลยทำให้ในด้านประสิทธิภาพ Galaxy A01 Core เหมาะสมกับการใช้งานที่เป็นพื้นฐานจริง ๆ เช่น การโทรเข้าออก, ดูวิดีโอ Youtube, ถ่ายรูป และเล่นโซเชี่ยลแบบพื้นฐานด้วยแอปพลิเคชั่น Lite version ส่วนการเล่นเกม หากเป็นเกมแนว Puzzle อย่าง Candy Crush Saga หรือเกมที่ไม่ได้กินสเปคมาก ก็พอที่จะเล่นบน Galaxy A01 Core ได้อยู่ แต่ถ้าจะเอาไปเล่นเกมอย่าง RoV, PUBG (Lite) ผมว่ารุ่นนี้ไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่
สำหรับความจุในตัวเครื่อง หากเป็นรุ่น RAM 1GB + ROM 16GB จะมีพื้นที่ให้ใช้จริงประมาณ 10GB แนะนำว่าให้ซื้อ microSD มาเพิ่มพื้นที่ในการเก็บภาพถ่าย หรือย้ายแอปบางตัวไปเก็บไว้ที่ microSD Card
อย่างไรก็ตาม หากรู้สึกว่าโทรศัพท์มีความหน่วง หรือพื้นที่เก็บข้อมูลเต็ม สามารถใช้ฟีเจอร์ Smart Manager ช่วยจัดการโทรศัพท์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานได้ หลัก ๆ จะเป็นการเคลียร์แอป, เคลียร์แคช ก็พอจะทำให้การใช้งานลื่นขึ้นมาเล็กน้อย
ด้วยความที่ Galaxy A01 Core ถูกวางให้เป็นโทรศัพท์รุ่นเริ่มต้น โดยเฉพาะคนที่เปลี่ยนจากฟีเจอร์โฟนมาเป็นสมาร์ตโฟน เลยทำให้มีฟีเจอร์อย่างการฟังวิทยุ ถูกใส่เข้ามาให้ใช้งานด้วย แต่ก็ต้องใช้หูฟังเป็นเสาอากาศในการฟังวิทยุด้วยนะครับ
ด้านการจัดการพลังงาน ด้วยแบตเตอรี่ในตัวเครื่องความจุ 3,000 mAh (ไม่สามารถเปลี่ยนได้) กับสเปคที่เป็นรุ่นประหยัด เลยทำให้การจัดการพลังงานทำได้ดีทีเดียว สามารถสแตนบายได้ยาวนาน โดยที่ไม่ต้องชาร์จไฟบ่อย ๆ ส่วนการชาร์จไฟกลับเข้าเครื่อง ใช้เวลานานประมาณ 2 ชั่วโมงได้ครับ
สรุป Samsung A01 Core ดีไหม เหมาะกับใคร?
ภาพรวมของ Samsung Galaxy A01 Core จัดเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นที่แท้จริง เหมาะกับคนที่เปลี่ยนจากฟีเจอร์โฟน มือถือปุ่มกด มาเริ่มใช้สมาร์ตโฟนที่เป็นหน้าจอสัมผัส หรือจะซื้อให้เด็ก ๆ ที่บ้านใช้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เน้นแค่โทรเข้าออก ไม่ต้องพะวงเรื่องน้อง ๆ จะติดโทรศัพท์ หรือติดเกมในมือถือ เพราะรุ่นนี้จะเน้นไปที่การใช้งานพื้นฐานมาก ๆ อีกทั้งค่าตัวเริ่มต้นก็ไม่ได้สูงมาก
รวมถึงคนที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนเครื่องสำรอง ไว้รับสาย หรือโทรออก Galaxy A01 Core ก็ตอบโจทย์การใช้งานในส่วนนี้เช่นกัน ด้วยความสามารถในการจัดการพลังงานที่ทำได้ดี สแตนบายตัวเครื่องได้นาน โดยที่ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้เลือกซื้อเป็นรุ่น RAM 2GB + ROM 32GB ราคา 2,999 บาท น่าจะเหมาะสมกับการใช้งานมากกว่าครับ ส่วนต่างจากรุ่นเริ่มต้น (2,499 บาท) เพียง 500 บาท ได้แรม และความจุที่มากกว่าพอสมควรเลย