หลังจากที่ Xiaomi ได้ทำการเปิดตัว Xiaomi Mi 11 เรือธงตัวใหม่ของล่าสุดอออกมาวางขายทั่วโลกแล้ว ด้วยความที่่เป็นมือถือเรือธงที่มาพร้อมสเปคแบบเหนือล้ำรอบด้าน จัดเต็มทุกการใช้งาน พร้อมด้วยราคาวางจำหน่ายที่ไม่สูงมากนัก ทำให้หลาย ๆ คนอาจจะเกิดความลังเลว่าแล้วมันแตกต่างกับมือถือเรือธงของค่ายอื่น ๆ อย่างไร วันนี้ทีมงาน Specphone เลยจับ Xiaomi Mi 11 vs iPhone 12 Pro Max ดูความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นไว้เป็นข้อมูลประกอบในการตัดสินใจให้แก่เพื่อน ๆ ทุก ๆ คน ซึ่งหากใครอยากรู้แล้วว่ามันต่างกันตรงไหนก็ไปรับชมกันได้เลย
ตารางเทียบสเปค Xiaomi Mi 11 vs iPhone 12 Pro Max
สเปค | Xiaomi Mi 11 | iPhone 12 |
---|---|---|
ขนาดตัวเครื่อง | 164.3 x 74.6 x 8.06 มิลลิเมตร | 146.7 x 71.5 x 7.4 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 196 กรัม | 162 กรัม |
วัสดุ | หน้าจอ Gorilla Glass Victus กรอบอะลูมิเนียม ฝาหลังกระจก | หน้าจอ Ceramic Shield กรอบอะลูมิเนียม ฝาหลังกระจก |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12 | iOS 14 |
หน้าจอแสดงผล | AMOLED ขนาด 6.81 นิ้ว ขอบเขตสี DCI-P3 รองรับการแสดงผล HDR10+ เทคโนโลยี MEMC สว่างสูงสุด 1,500 nits อัตราส่วนคอนทราสต์ 5,000,000:1 | OLED Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว การแสดงผลแบบ True Tone ขอบเขตสี DCI-P3 รองรับการแสดงผล HDR10 สว่างสูงสุด 1,200 nits อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 |
ความละเอียดหน้าจอ | 3,200 x 1,440 พิกเซล (WQHD+) 515 ppi | 2,532 x 1,170 พิกเซล 460 ppi |
Refresh Rate | 120Hz พร้อม Touch Sampling Rate 480Hz | 60Hz |
ชิปประมวลผล | Qualcomm Snapdragon 888 (5nm) | Apple A14 Bionic (5nm) |
แรม | 8GB / 12GB | 4GB |
หน่วยความจำ | 128GB / 256GB | 64GB / 128GB / 256GB |
MicroSD Card | ไม่รองรับ | ไม่รองรับ |
กล้องหลัง | WIde 108MP, f/1.9, PDAF, OIS Ultrawide 13MP, f/2.4, 123 องศา Telemacro 5MP, f/2.4, AF Dual-LED Flash | Wide 12MP, f/1.6, dual pixel PDAF, OIS Ultrawide 12MP, f/24, 120 องศา |
กล้องหน้า | 20MP, f/2.2 | 12MP, f/2.2 |
การบันทึกวีดีโอ | กล้องหลังสูงสุด 8K 30fps กล้องหน้าสูงสุด 1080p 60fps | กล้องหลังสูงสุด 4K 60fps กล้องหน้าสูงสุด 4K 60fps |
แบตเตอรี่ | 4,600 mAh | 2,815 mAh |
ระบบชาร์จเร็ว | 55W wired turbo charging | Fast charging 20W |
ระบบชาร์จไร้สาย | 50W wireless turbo charging | MagSafe 15W Qi 7.5W |
ระบบชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับ | 10W reverse wireless charging | ไม่รองรับ |
มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น | ไม่รองรับ | IP68 (กันน้ำลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที) |
เครือข่าย 5G | sub-6 GHz | sub-6 GHz |
ซิมการ์ด | Dual Nano SIM | Nano SIM + eSIM |
Wi-Fi | 4×4 MIMO Wi-Fi 6 (Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax) | 2×2 MIMO Wi-Fi 6 (Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax) |
ช่อง USB | USB Type-C | Lightning |
Bluetooth | Bluetooth 5.2 | Bluetooth 5.0 |
ราคาจำหน่าย | 8/128GB ราคาประมาณ 27,000 บาท 8/256GB ราคาประมาณ 28,900 บาท 12/256GB ยังไม่ทราบราคา | 64GB ราคา 29,900 บาท 128GB ราคา 31,900 บาท 256GB ราคา 35,900 บาท |
เปรียบเทียบหน้าจอแสดงผลระหว่าง Xiaomi Mi 11 vs iPhone 12
สำหรับหน้าจอนั้นทั้ง Mi 11 และ iPhone 12 ต่างก็ใช้หน้าจอเทคโนโลยี OLED ด้วยกันทั้งคู่ แต่จะแตกต่างกันที่รายละเอียดต่าง ๆ โดย Mi 11 นั้นใช้หน้าจอ AMOLED ที่ให้สีสันสวยสด มีขอบจอที่โค้ง จอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 6.81 นิ้ว ที่มีความระเอียดระดับ WQHD+ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า 2K+ พร้อมด้วยค่า Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz และค่า Touch Sampling Rate ที่สูงถึง 480Hz ทำให้มีการแสดงผลที่ไหลลื่นและตอบสนองต่อการสัมผัสได้รวดเร็วสุด ๆ อีกทั้งยังใช้กระจกรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Gorilla Glass Victus ที่มีความแข็งแรงที่สุดในตอนนี้มาป้องกันหน้าจอด้วย
นอกจากนี้หน้าจอแสดงผลยังมาพร้อมกับค่าอัตราส่วนคอนทราสต์ถึง 5,000,000:1 และสามารถปรับความสว่างได้สุงสุดถึง 1,500 nits ช่วยให้การแสดงสีสันดูมีมิติมากปยิิ่งขึ้น และยังสามารถใช้งานกลางแดดจัดได้อีกด้วย และที่น่าสนใจคือในหน้าจอแสดงผลมีเทคโนโลยี MEMC ที่ช่วยปรับการแสดงผลของคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับค่า Refresh Rate แบบอัตโนมัติได้
ในขณะที่ฝั่ง iPhone 12 นั้นมาพร้อมกับหน้าจอ Super Retina XDR ขนาดใหญ่ 6.1 นิ้ว ที่มีความละเอียด 2,532 x 1,170 พิกเซล แล้วครอบทับด้วยกระจกหน้าจอที่ Apple ให้ชื่อว่า Ceramic Shield โดยทาง Apple ยืนยันว่ามีความแข็งแกร่งกว่ากระจกหน้าจอทั่วไปในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนปัจจุบัน นอกจากนี้หน้าจอ Super Retina XDR นียังมีค่าอัตราส่วนคอนทราสต์ถึง 2,000,000:1 และสามารถปรับความสว่างได้สุงสุดถึง 1,200 nits
หากมองจากข้อมูลที่กล่าวไปนี้นั้น หน้าจอของ Mi 11 จะได้เปรียบกว่า iPhone 12 ในหลาย ๆ ด้านทั้งขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า, ความละเอียดที่สูงกว่า, ค่าคอนทราสต์ที่สูงกว่ามาก และค่าความสว่างสูงสุดที่มากกว่า อีกทั้งหน้าจอของ Mi 11 ยังมีค่า Refresh rate ที่สูงถึง 120Hz ซึ่งช่วยให้การใช้งานดูเนียนตากว่า อีกทั้งยังตอบสนองต่อการสัมผัสได้ไวกว่าด้วยค่า Touch Sampling Rate ที่สุงถึง 480Hz
ในขณะที่ทางฝั่ง iPhone 12 นั้นแม้จะไม่มีการระบุค่า Touch Sampling Rate มา แต่จากหลาย ๆ เสียง รวมถึงที่เคยใช้ผ่าน ๆ มาด้วยตัวเองนั้นต้องยอมรับว่าหน้าจอของ iPhone นั้นมีการสีมผัสที่แม่นยำมาก ๆ และการที่ Apple ใช้หน้าจอ Super Retina XDRที่เป็นเทคโนโลยี OLED ยังช่วยให้การแสดงสีสันออกมาดีไม่แพ้ AMOLED เลย แต่จะเสียเปรียบในเรื่องของหน้าจอแสดงผลที่เล็กกว่า (ถึงจะแค่นิดหน่อย) อีกทั้งยังมีรอยบากมากินพื้นที่หนน้าจอไปเล็กน้อยด้วย ซึ่งตรงนี้ใน Mi 11 ใช้เป็นกล้องแบบเจาะรุทำให้ได้พื้นที่แสดงผลเยอะกว่านั่นเอง
เปรียบเทียบสเปคภายในระหว่าง Xiaomi Mi 11 vs iPhone 12
ชิปประมวลผล
ในด้านปริสิทธิภาพการทำงานนั้นทั้งคู่ถือว่าเป็นตัวแรงที่สุดอีกทั้งยังเป็นชิปรุ่นใหม่ที่่ใช้กระบวนการผลิตระดับ 5 nm ทั้งคู่ ช่วยให้มีความแรงมากขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย โดย Mi 11 ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 ตัวแรกของโลก ส่วน iPhone 12 นั้นใช้ชิปประมวลผล Apple A14 Bionic ซึ่งหากอ้างอิงจากคะแนนบนหน้าเว็บ AnTuTu ในปัจจุบันนี้นั้นคะแนน AnTuTu ของ Mi 11 จะอยู่ที่ 707,306 คะแนน (ถึงแม้ตอนเปิดตัว Xiaomi จะบอกว่าทำได้ 735,439 คะแนนเลยก็ตาม) ส่วนคะแแนน AnTuTu ของ iPhone 12 นั้นจะอยู่ที่ 613,737 คะแนน
ซึ่งถึงแม้คะแนน AnTuTu จะห่างกันเกือยแสนแต่พอเอามาใช้งานจริงแล้วเราแทบไม่เห็นความแตกต่างเลย แถมเรายังเอาคะแนนนี้มาใช้เป็ฯตัวตัดสินหลักไม่ได้ด้วยเนื่องจากทั้ง 2 เครื่องใช้ระบบปฏิบัติการไม่เหมือนกัน รวมถึงแแอพที่ใช้ทดสอบก๋เขียนขึ้นมาไม่เหมือนกันทำให้ไม่สามารถเอามาเทียบกันได้โดยตรง
แรมและหน่วยความจำ
ในส่วนของการพื้นที่เก็บข้อมูลทั้งแรมและหน่วยความจำนั้น Mi 11 มาพร้อมแรมเริ่มต้นนาด 8GB แบบ LPDDR5 และมีหน่วยความจำเริ่มต้นขนาด 128GB แบบ UFS 3.1 ส่วน iPhone 12 นั้นมาพร้อมแรมขนาด 4GB แบบ LPDDR4X และหน่วยความจำเริ่มต้นที่ 64GB แบบ NVMe
ซึ่งในด้านการใช้งานแล้ว Mi 11 จะได้เปรียบ iPhone 12 ในด้านการใช้งานหลาย ๆ แอพพร้อมกัน ด้วยแรมที่มีขนาดมากกว่าถึง 2 เท่าอีกทั้งยังมีความเร็วที่สูงกว่าด้วย แต่ในส่วนของหน่วยความจำนั้นทั้งคู่มีตัวเลือกให้สูงสุดที่ 256GB เช่นกัน ถึงแม้ทั้งสองจะใช้หน่วยความจำคนละแบบกัน ทำให้มีความเร็วในการอ่าน/เขียนไม่เท่ากัน ทว่าเวลาใช้งานจริงแล้วเราแยกไม่ออกเลยว่ามันต่างกันขนาดไหน
แบตเตอรี่และระบบชาร์จ
แบตเตอรี่และระบบชาร์จนี้เป็นหนึ่งในจุดที่ต่างกันแบบสุด ๆ เลยก็ว่าได้ โดย Mi 11 นั้นมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,600 mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 55W, ชาร์จเร็วแบบไร้สายขนาด 50W และชาร์จแบบย้อนกลับเร็ว 10W (มีแถมอะแดปเตอร์ชาร์จเร็วแบบ GaN ขนาด 55W มาในกล่องด้วย) ในขณะที่ iPhone 12 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 2,815 mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 20W , ชาร์จไร้สายแบบ MagSafe ขนาด 15W และชาร์จไรสายเทคโนโลยี Qi ขนาด 7.5W ด้วย (ไม่มีอะแดปเตอร์ชาร์จเร็วใน่มาในกล่อง ต้องซื้อเพิ่มนะเออ)
ซึ่งถ้าดูจากสิ่งที่ทำได้แล้วยังไง Mi 11 ก็ดูจะได้เปรียบกว่าทั้งในเรื่องของปริมา๖แบตเตอรี่และระบบชาร์จ แต่ทว่าในเรื่องการใช้งานจริงนั้นคงต้องรอรีวิวเต็ม ๆ อีกครั้ง เพราะด้วยหน้าจอที่มีความละเอียดสูงแถมยังมีค่า Refresh Rate ที่สูงนั้นเป็นอะไรที่กินแบตเตอรี่อย่างมาก ไม่แน่ว่าระยะเวลาใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้งอาจจะไม่ได้แตกต่างกันมากก็ได้ แต่ถึงจะมีปัญหาเรื่องการสูบแบตเตอรี่ที่มากเพิ่มเข้ามา Xiaomi ก็ได้ทำการแก้ปัญหาในส่วนนี้ด้วยการเพิ่มระบบชาร์จเร็วกำลังสูงเข้ามาแทน ช่วยให้สามารถใช้งานต่อได้เร็วขึ้น
เปรียบเทียบกล้องถ่ายภาพระหว่าง Xiaomi Mi 11 vs iPhone 12
ในด้านกล้องถ่ายภาพนั้นนับเป็นหนึ่งในจุดที่มีความแตกต่างกันมากที่สุด โดยใน Mi 11 นั้นจะมีกล้องทั้งหมด 3 เลนส์ เป็นเลนส์หลักความละเอียด 108MP, เลนส์ Ultrawide ความละเอียด 13MP และเลนส์ Telemacro ความละเอียด 5MP ส่วน iPhone 12 นั้นจะมีเลนส์ทั้งหมด 2 เลนสื เป็นเลนส์หลักความละเอียด 12MP และเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 12MP
หากดูจากสเปคแล้ว Mi 11 ย่อมได้เปรียบ iPhone 12 เต็ม ๆ ทั้งเลนส์หลักที่มีความละเอียดสูงกว่ามาก ๆ ช่วยให้ภาพถ่ายมีความละเอียดมากขึ้น สามารถเอาไปใช้ต่อได้หลากหลายกว่า แถมยังใช้ถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดถึง 8K ได้อีกด้วย ทางด้าน iPhone 12 นั้นถึงแม้จะมีความละเอียดที่น้อยกว่ามาก แต่ก็ทดแทนด้วยเลนส์ Ultrawide ที่ทำมุมได้กว้างกว่า อีกทั้งระบบกันสั่นตอนบันทึกวีดีโอเองก็สามารถเอาไปใช้ได้จริงด้วย และที่สำคัญภาพของ iPhone 12 นั้นจะได้ภาพคล้ายกับที่ถ่ายจากกล้องถ่ายรูป ช่วยให้สามารถเอาไปตกแต่งได้ง่ายกว่า สำหรับภาพของ Mi 11 จะถ่ายออกมาได้ขนาดไหนนั้นคงต้องรอให้ DxOMark รีวิวแบบละเอียดเสียก่อน
เปรียบเทียบสเปคอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทั้ง Mi 11 และ iPhone 12 นั้นมีฟีเจอร์พื้นฐานคล้าย ๆ กัน ทั้งการเชื่อมต่อ 5G, การรองรับ Wi-Fi 6, รวมทั้งการที่ไม่สามารถเพิ่่มพื้นที่เก็บข้อมูลด้วย MicroSD Card ได้ ทั้งนี้ทาง Mi 11 จะเหนือกว่าในด้านระบบเสียงที่ได้ harman/kardon มาช่วยปรับจูนเสียงให้ อีกทั้ง Mi 11 รุ่นที่ขายแบบทั่วโลกนั้นจะมีอะแดปเตอร์ชาร์จมาพร้อมในกล่องเลย แถมยังเป็นอะแดปเตอร์ชาร์จขนาด 55W ที่่ใช้เทคโนโลยี GaN อีกด้วย ซึ่งแตกต่างจาก iPhone ที่ไม่มีอะแดปเตอร์ชาร์จมาให้ในกล่องอีกแล้ว เนื่องจาก Apple เชื่อว่าผู้ใช้มีอะแดปเตอร์ชาร์จอยู่แล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเอา Xiaomi Mi 11 vs iPhone 12 ไป ทางทีมงานก็ไม่สามารถตัดสินแบบฟันธงให้กับเพื่อน ๆ ได้ เพราะโดยมากแล้วจะขึ้นอยู่่กับความชื่นชอบส่วนตัวเสียมากกว่า ทางที่ดีให้ไปลองเล่นตามร้านดูก่อนค่อยตัดสินใจขั้นสุดท้ายก็ได้
หากใครอยากเห็นว่่าตัวเครื่อง Xiaomi Mi 11 เป็นอย่างไรสามารถเข้าไปดูวีดีโอในตามลิ้งนี้ได้เลยครับ และหากใครอยากได้ข้อมูลของ iPhone 12 Pro Max เพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูวีดีโอรีวิวตามลิ้งนี้ได้เลยครับ