แนะนำ 4G Router ใส่ซิมยี่ห้อไหนดี 2021 ใช้ได้ทุกเครือข่าย
สำหรับในยุคนี้ที่หลายๆ คนจำเป็นจะต้องอยู่บ้าน ไม่ว่าจะทำงานหรือว่าเป็นเรื่องของการเรียน สิ่งหนึ่งที่จำเป็นอย่างมากในการใช้งานที่บ้านเลย ก็คืออินเทอร์เน็ตนั่นเอง ความจริงแล้วคนที่มีเน็ตบ้านใช้งานเป็นประจำ และต้องจ่ายค่าเน็ตจากเครือข่ายที่ใช้กันปกติอยู่แล้ว ก็คงจะไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องนี้เท่าไหร่นัก แต่กับคนที่ติดแล้วเจอกับปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปไม่ถึง เพราะว่าอยู่กันคนละชั้นและไม่ได้โยงสายขึ้นไปยังห้องต่างๆ ก็ต้องเจอกับปัญหาสัญญาณเน็ตไม่ถึง เน็ตขาด หรือว่าไม่มีสัญญาณพอ ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับคนที่ไม่ได้ติดเน็ตบ้าน ก็คงจะต้องแชร์เน็ตจากมือถือเป็นสัญญาณ Hotspot เพื่อใช้งานกับโน๊ตบุ๊ค หรือในคอม และถ้าใช้งานแบบนี้ไปนานๆ ก็อาจจะทำให้แบตมือถือเสื่อม หรือว่าได้สัญญาณไม่เต็มที่กันอย่างแน่นอน ทางเลือกที่หลายคนมองหาก็คือตัว Router ที่สามารถใส่ซิมจากค่ายมือถือ เพื่อกระจายสัญญาณเน็ตได้ทั้งใช้สาย และต่อ WiFi ในราคาประหยัด และไม่ได้ต้องการความเร็วสูงมากนัก ถ้าใช้งานเครื่องเดียวก็สบายหายห่วงไปเลย เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำ Router ใส่ซิมยี่ห้อไหนดีที่น่าใช้งานในปี 2021 ที่ใช้ได้ทุกเครือข่าย ก็สามารถกระจายสัญญาณเล่นเน็ตได้แล้ว ตามไปดูกันเลย
4G Router ใส่ซิมคืออะไร และควรเลือกแบบไหนดี?
สำหรับ 4G Router แบบใส่ซิมได้นั้น ถ้าให้พูดง่ายๆ เลยก็คือเหมือนเป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากซิมโดยตรง และกระจายสัญญาณ 3G/4G LTE จากซิมค่ายต่างๆ ได้ทั้งแบบ WiFi และเสียบสาย LAN ข้อดีของมันก็คือ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้งานนอกสถานที่ หรือว่าในคอนโดและห้องพักของตัวเอง ที่ไม่ต้องต่อสายสัญญาณหรือว่าติดสัญญาการใช้งานจากค่ายต่างๆ เหมือนเน็ตบ้าน และยังสามารถปล่อยสัญญาณออกมาได้ระยะไกล และดีกว่าการแชร์ Hotspot บนมือถือด้วย ที่สำคัญเลยก็คือเรื่องของแบต ที่ไม่ต้องมากังวลตรงนี้เลย เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นปลั๊กเสียบจากไฟบ้าน หรือคอนโดโดยตรงไปเลย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คือ การใช้ 4G Router ใส่ซิมยังคงเหมาะกับการใช้งานแบบส่วนตัวมากกว่า เพราะว่าต้องใช้ความเร็วเน็ตจากซิมโดยตรง และซิมที่ใช้เน็ตได้ไม่อั้น หรือซิมเน็ตรายปี ส่วนใหญ่แล้วจะมีความเร็วอยู่ที่ไม่เกิน 10-20Mbps (ดูซิมรายปี ซิมเทพค่ายต่างๆ ที่นี่) ถ้ายิ่งแชร์กันหลายเครื่องก็ยิ่งเป็นการแย่งเน็ตกัน ทำให้ใช้งานได้ช้าลงไปอีก นอกจากนี้ยังสามารถพกพาหรือยกไปใช้งานที่อื่นได้ด้วย เพียงแค่เสียบปลั๊กต่อสัญญาณก็ใช้ได้ทันที ที่สำคัญคือราคาของตัวเครื่อง Router แบบใส่ซิมนั้นมีราคาไม่แพงมาก ถ้าซื้อร่วมกับแพ็กเกจเน็ตไม่อั้นส่วนใหญ่ก็ไม่เกินเดือนละ 500 บาทเท่านั้น หรือถ้าเป็นซิมรายปีก็ยิ่งถูกลงไปอีก
ส่วนวิธีเลือกซื้อมาใช้งานแบบเบื้องต้น สิ่งแรกๆ ที่ควรจะต้องดูเลยก็คือ การรองรับการใช้งานเครือข่าย หรือว่ารองรับซิมได้หลากหลาย เพราะมีบางรุ่นจะเป็นการล็อคซิมไปเลย ทำให้เจอกับปัญหาเปลี่ยนซิมเป็นโปรอื่นๆ ที่อยากใช้งานให้ดีกว่าเดิมไม่ได้ ทางที่ดีก็คือหาตัวที่เสียบซิมได้หลายซิมในเครื่องเดียวด้วยจะดีที่สุด เผื่อสัลความเร็วในการใช้งานตามแต่ละพื้นที่ได้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังต้องดูเรื่องของการกระจายสัญญาณด้วย ว่าสามารถเชื่อมต่อสาย LAN ได้พร้อมกับกระจาย WiFi ได้ด้วยหรือไม่ เพราะบางตัวก็มีแค่เสียบสาย LAN อย่างเดียว ทำให้ไม่สามารถเชื่อต่อแบบไร้สายได้ รวมไปถึงการเชื่อมต่อที่รองรับคลื่นความถี่ และจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้หลากหลายด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ต้องดูรายละเอียดก่อนซื้อทุกครั้ง ว่าเราอยากจะเอาไปใช้งานแบบไหน ต่อไฟบ้านได้โดยตรงอย่างเดียว หรือต่อกระแสไฟฟ้าตรงได้ด้วย กับราคาที่เหมาะสมกับการใช้งาน และสุดท้ายคือการเลือกใช้ซิมที่มีความเร็วตามแต่ละพื้นที่การใช้งานของตัวเองเป็นหลักด้วย
แนะนำ 4G Router ใส่ซิมยี่ห้อไหนดีในปี 2021
สำหรับ 4G Router แบบใส่ซิมยี่ห้อต่างๆ ที่น่าใช้งานในปี 2021 ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ จะมีทั้งตัวที่ทำมาจากค่าย AIS, Truemove H และของ dtac ที่ทำร่วมกับแบรนด์อื่นมาให้ใช้งานด้วย ส่วนยี่ห้ออื่นๆ นอกจากนี้จะเอามาจากร้านค้าออนไลน์อย่าง Shopee และ Lazada ที่มีขายอยู่เป็นหลัก ส่วนรุ่นไหนที่น่าใช้งาน ก็ต้องดูการใช้งานและงบประมาณของตัวเองเป็นหลักได้เลย ว่าต้องการจะใช้รุ่นธรรมดา หรือว่ารุ่นยี่ห้อเทพๆ ที่มีราคาสูงๆ ไปเลย ส่วนยี่ห้อที่เราจะแนะนำส่วนใหญ่แล้วจะมีรุ่นที่มีราคาหลักพันต้นๆ อยู่ด้วยหลายรุ่น สามารถกดค้นหาใน Shopee, Lazada ได้เลย
1. AIS 4G Home Wi-Fi
มาเริ่มกันที่ 4G Router ใส่ซิมตัวแรกกันก่อนเลย ซึ่งตัวนี้เป็นของ AIS ที่มีวางขายอยู่ในรุ่น 4G Home Wi-Fi (HongKong Boost R051) ที่ศูนย์บริการ หรือว่าร้านค้าออนไลน์ Shopee, Lazada (มีแถมซิมด้วยในรุ่นอื่น) การใช้งานของตัวนี้จะค่อนข้างง่าย ที่เสียบปลั๊ก ใส่ซิม และทำการตั้งค่านิดหน่อยก็เปิดใช้งานได้ในทันที รองรับความเร็วดาวน์โหลดและอัพโหลดได้สูงสุด 150Mbps/50Mbps และ W-iFi ช่วงความถี่ 2.4GHz โดยตัวนี้ของ AIS สามารถใช้งานได้ทั้งเสียบสาย LAN 2 ช่อง และกระจาย WiFi ได้สูงสุดถึง 32 เครื่องเลยมีเดียว (ความเร็วขึ้นอยู่กับซิมที่ใช้ด้วยนะ) นอกจากนี้ยังสามารถต่อเข้ากับ Power Bank 2A ได้ด้วย แนะนำว่าให้เปิดใช้งานซิมในมือถือก่อนแล้วค่อยนำไปใช้งานบนตัว 4G Router ราคาของตัวนี้จะอยู่ที่ประมาณหลักพันต้นๆ เท่านั้น
2. TRUE IoT Router WiFi
มาทางฝั่งของค่าย Truemove H กันบ้าง ที่มีตัว Router ของตัวเองอยู่ด้วย และมีการวางขายอยู่บนหน้าเว็บโดยตรงเลยด้วย สามารถซื้อได้ทั้งเครื่องเปล่าและซื้อพร้อมแพ็กเกจ แต่อันนี้จะรองรับแค่ซิมของ Truemove H เท่านั้น ใครที่ใช้ซิมทรูเป็นลูกค้าอยู่แล้วหรือจะย้ายมา แนะนำว่าให้ซื้อพร้อมแพ็กเกจจะคุ้มมาก โดยตัวนี้สามารถรองรับได้ทั้งคลื่นความถี่ 2G – 4G เลย พร้อมทั้งรองรับความเร็วดาวน์โหลดและอัพโหลดได้สูงสุด 150Mbps/50Mbps และเชื่อมต่อได้พร้อมกัน 10 เครื่อง (แบบ WiFi) และต่อสาย LAN ได้ทั้งหมด 4 พอร์ต การใช้งานก็ง่ายไม่แพ้กัน เพียงแค่ใส่ซิมและเสียบปลั๊กก็จะสามารถเล่นได้ทันที ราคาของตัวนี้จะมีราคาเครื่องเปล่า 2,990 บาท แต่ถ้าซื้อพร้อมแพ็กเกจ 4G Home Broadband Unlimited Max Speed Package 300 จะเหลือเพียง 1,990 บาทเท่านั้น
3. TP-Link
ถ้าพูดถึงเรื่อง Router จะไม่พูดยี่ห้อนี้ก็คงไม่ได้กับ TP-Link ที่มีตัว Router ใส่ซิมออกมาอยู่หลายรุ่นมากๆ โดยรุ่นที่คนนิยมใช้งานจะเป็นรุ่น TL-MR100, TL-MR200, TL-MR400 (อิงจากยอดซื้อบนร้านค้าออนไลน์) แต่ความจริงก็ยังรุ่นที่นอกเหนือจากนี้อีก ด้วยรูปทรงที่ทำออกมาสวย ใช้งานได้สะดวก และสามารถรองรับได้ทุกซิมในราคาที่ไม่สูงมาก จึงทำให้หลายคนเลือกใช้งานกัน โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะมีการรองรับทั้ง WiFi และสาย LAN เลย แต่อาจจะแตกต่างกันที่ช่องพอร์ตของ LAN ที่แต่ละรุ่นมีจำนวนไม่เท่ากัน รวมไปถึงการรองรับการกระจายสัญญาณ ที่จะมีความเร็วแตกต่างกันออกไปตามแต่ละรุ่นด้วย วิธีการใช้งานก็จะง่ายเหมือนกันทุกรุ่น แค่ใส่ซิมแล้วเสียบปลั๊กก็เปิดใช้งานได้เลย ราคาของตัวเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-3,000 บาท แล้วแต่รุ่น และบางร้านก็มีแถมซิมให้ด้วยนะ
4. D-Link
Router ใส่ซิมอีกหนึ่งยี่ห้อที่มีชื่อเสียงในด้านนี้ และได้รับความนิยมพอๆ กับด้านบนเลยก็คือ D-Link ที่ทำออกมาหลายรุ่น แต่รุ่นที่คนนิยมซื้อไปใช้งานก็ก็คือตัว DWR920, DWR921 ซึ่งทั้งสองตัวนี้หน้าตาจะไม่เหมือนกันเลย รวมไปถึงคุณสมบัติในการใช้งานทั้งการเชื่อมต่อสาย LAN ที่พอร์ตแต่ละรุ่นจะต่างกัน กับการกระจาย WiFi ที่ต่างกันด้วย และช่วงราคาที่แตกต่างกันอยู่นิดหน่อย ก่อนจะซื้อรุ่นไหนก็ควรที่ต้องดูการใช้งานของตัวเองก่อน ว่าจะใช้งานกับสถานที่แบบไหน ห้องส่วนตัวหรือว่าจะเน้นพกพาไปข้างนอก ส่วนการใช้งานก็จะเหมือนๆ กันที่ใส่ซิมแล้วเสียบปลั๊กก็ใช้งานได้เลยเหมือนกัน ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,200-2,300 บาทแล้วแต่ร้านค้ากำหนด โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ควรอ่านรายละเอียดเปรียบเทียบรุ่นกันให้ดีก่อนทุกครั้ง
5. Huawei
มาที่ตัวของทาง Huawei กันบ้างที่มี Router ใส่ซิมออกมาและนิยมใช้งานอยู่หลายรุ่นอย่าง B310, B311, B315 และมีตัวที่ทำร่วมกับ dtac ที่ขายตัวเครื่องพร้อมกับแพ็กเกจจาก dtac 10-20Mbps อยู่ด้วย (ราคา 500 บาทพร้อมสัญญา 6 เดือน ดูรายละเอียดที่นี่) ส่วนรุ่นอื่นๆ ที่ขายอยู่บน Shopee, Lazada นั้นจะมีราคาที่สูงกว่านี้ และสูงกว่าสองยี่ห้อด้านบนด้วย แนะนำว่าซื้อกับ dtac จะคุ้มกว่า ส่วนการเชื่อมต่อจะมีทั้งรุ่นที่มีพอร์ต LAN 1-4 พอร์ต พร้อมกับตัวขยายสัญญาณ WiFi และใช้งานได้ง่าย ใช้ได้กับซิมทุกเครือข่ายเหมือนกัน ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-3,500 กันเลยทีเดียว ถือว่าราคาแรงใช้ได้เลยถ้าเป็นรุ่นที่มีพอร์ตสาย LAN เยอะๆ
6. Tenda
Router ใส่ซิมยี่ห้อไหนดีปี 2021 ยี่ห้อสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไหร่นัก แต่ความจริงแล้วของ Tenda นั้นสามารถใช้งานได้ดีทีเดียว แถมมีราคาที่ไม่แรงมากอีกด้วย โดยรุ่นที่นิยมใช้กันจะเป็นตัว 4G680, 4G06, 4G09 ที่สามารถใช้งานได้กับซิมทุกเครือข่ายเลย โดยแต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกันตรงขนาดและการดีไซน์ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นทรงมินิมอลสวยงามเลย รวมไปถึงช่องเชื่อมต่อของพอร์ตสาย LAN ที่มีความเร็วตั้งแต่ 10/100Mbps – 150 Mbps และเสากระจายสัญญาณ WiFi ที่สามารถถอดแยกได้ ช่วยให้การเชื่อมต่อรับส่งข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้น และยังมีประกันให้สูงสุดถึง 5 ปีเลย ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,800 บาท โดยรวมแล้วเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าใช้งานมากเลย
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็น Router ใส่ซิมยี่ห้อต่างๆ ที่น่าใช้งานในปี 2021 ที่เราได้นำมาฝากกันทั้ง 6 ยี่ห้อ ซึ่งความจริงแล้วก็ยังมียี่ห้ออื่นๆ นอกเหนือจากนี้อีก ที่เราแนะนำนี้เป็นเพียงตัวอย่างของ Router ที่คนนิยมใช้งานกันเป็นส่วนใหญ่ สำหรับคนที่ไม่มีเน็ตบ้าน หรือเจอปัญหาสัญญาณมาไม่ถึง หรือไม่อยากจะต้องไปติดสัญญากับหอ รวมไปถึงที่คอนโด ก็สามารถเลือกดูตามแต่ละรุ่นที่บอกไปได้เลย หรือถ้าใครใช้เครือข่าย AIS, Truemove H และต้องการใช้ Router ของเครือข่ายที่ใช้อยู่ก็ได้ แต่แนะนำว่าให้ซื้อซิมใหม่มาเลยจะดีกว่า ยิ่งเป็นซิมเทพ หรือซิมรายปี (ดูซิมเทพที่นี่) ที่จ่ายครั้งเดียว ก็เล่นเน็ตได้ไม่อั้น ไม่มีลดสปีดยาวๆ กันไปเลยทั้งปี ก็จะยิ่งคุ้มค่าในการใช้งานที่มากขึ้นไปอีก แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ