มาแล้ว! Xiaomi 12s Ultra ครั้งแรกกับกล้องเทพของ LEICA พร้อมชิป SND 8+ Gen 1 สำหรับสายถ่ายรูปตัวจริง
เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมากับมือถือระดับเรือธงรุ่นใหม่จาก Xiaomi ทั้ง 3 รุ่นในซีรีส์ของ 12s นั่นก็คือ Xiaomi 12s, Xiaomi 12s Pro และ Xiaomi 12s Ultra รุ่นตัวม็อปที่มีทั้งความเร็วแรง สเปคที่มาเหนือใครพร้อมชิปรุ่นใหม่ตัวแรก กับจุดเด่นที่พลาดไม่ได้เลยก็คือเรื่องของกล้อง ที่ได้พัฒนาร่วมกับแบรนด์ LEICA แบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องกล้องในตำนานมาหลายปี แถมยังมีเซนเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 1 นิ้วจาก Sony IMX989 อีกด้วย และถ้าดูจากดีไซน์ภายนอกก็จะเห็นได้เลยว่านี่มันกล้องในคราบมือถือชัดๆ เรียกได้ว่าทำออกเพื่อสายถ่ายรูป หรือคนที่อยากได้กล้องระดับเทพมาใช้งานอย่างแท้จริง ส่วนอีกสองรุ่นที่เหลือก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ทั้งหน้าจอและชิป Snapdragon 8+ Gen 1 รวมไปถึงกล้องที่ทำร่สมกับ LEICA ด้วยเช่นกันทั้งสามรุ่นเลย แต่วันนี้ทาง Specphone จะพาไปเจาะลึกถึงสเปคทั้งตัวเครื่องของ Xiaomi 12s Ultra กันว่ามีสเปคเป็นอย่างไรบ้างทั้งชิปตัวแรง Snapdragon 8+ Gen 1 กับกล้องระดับเทพที่ทำร่วมกับ LEICA พร้อมราคา และคาดว่าน่าจะมีการวางจำหน่ายแบบสากลเร็วๆ นี้
- ดีไซน์ตัวเครื่องภายนอก
- สเปคหน้าจอ
- ชิปประมวลผล และการเชื่อมต่อ
- กล้องหน้า และกล้องหลัง
- ความจุแบตเตอรี่ และราคา
ตารางเปรียบเทียบสเปค Xiaomi 12s Ultra กับรุ่นอื่นของ Xiaomi
ดีไซน์ที่เหมือนกับกล้องมืออาชีพทรงคลาสสิค ในรูปแบบของสมาร์ทโฟน
เริ่มต้นกันที่การดีไซน์ตัวเครื่องของ Xiaomi 12s Ultra กันก่อนเลย ที่ใครเห็นแล้วก็ต้องหันมามองแน่นอน ด้วยรูปแบบตัวเครื่องที่มีฝาหลังเป็นพื้นผิวซิลิโคน ที่ทำออกมาเหมือนกับวัสดุหนังบนกล้องแบบคลาสสิค นอกจากนี้ยังสามารถดูแลความสะอาดง่าย ไม่เป็นรอยนิ้วมือ และถือได้กระชับเข้ากับมือด้วยขนาดตัวเครื่องที่ไม่ใหญ่มากเกินไป สิ่งที่เด่นชัดออกมาเลย ก็คือตัวโมดูลกล้องหลัง ที่ได้ทำฐานออกมาเป็นสี่เหลี่ยม รองรับเข้ากับตัวเลนส์กล้องขนาดใหญ่กินพื้นที่ฝาหลังไปเกือบครึ่ง เผยให้เห็นถึงความเป็นกล้องของ LEICA ที่ตัวเลนส์กันไปเลย และถึงแม้ว่าตัวกล้องหลังนั้นจะดูนูนขึ้นมาพอสมควร แต่ก็ได้มีการปกป้องตัวเลนส์หลายร้อยส่วนเอาไว้เป็นอย่างดี มั่นใจได้ว่าตัวเลนส์นั้นจะไม่เป็นรอยขีดข่วนได้ง่ายๆ แต่ถ้าใครกลัวว่าจะเป็นรอย ก็แนะนำว่าให้หาเคสหรือฟิล์มติดเลนส์ไปเลยจะดีกว่า ส่วนด้านหน้าจอจะเป็นแบบเจาะรูตรงกลาง พร้อมกับกันน้ำกันฝุ่นได้ระดับ IP68 และด้วยการออกแบบตัวเครื่องทั้งหมดของรุ่นนี้ ก็ทำให้เหมือนเรามีกล้องติดตัวไปด้วยตลอดเวลาเลยทีเดียว Xiaomi 12s Ultra รุ่นนี้มีให้เลือกสองสีคือสีดำ และสีเขียว
หน้าจอคมชัดระดับ 2K ไหลลื่นและประหยัดพลังงาน
มาที่ส่วนของหน้าจอของ Xiaomi 12s Ultra กันบ้างที่รุ่นนี้มีหน้าจอเป็นแบบ Punch-Hole หรือจอแบบเจาะรูตรงกลางสำหรับกล้องหน้า และมีหน้าจอความละเอียดระดับ Super Vision 2K รูปแบบพาเนลหน้าจอ AMOLED Micro-curved Flexible Screen แบบ LTPO 2.0 กว้าง 6.73 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 1-120Hz ที่สามารถปรับได้ตามการใช้งานของเรา ช่วยประหยัดพลังงานได้อีกเยอะ กับการแสดงผลได้ถึง HDR10+ และรองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision อีกทั้งยังมีความสว่างหน้าจอสูงสุดถึง 1500nit อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันสายตา ป้องกันลายนิ้วมือ และการปรับแสงได้อัตโนมัติด้วยความไวแสง 360 องศา พร้อมกับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และสามารถปลดล็อคด้วยใบหน้าได้ถึงแม้ว่าจะมีสภาพแสงน้อยก็ตาม กับการครอบทับด้วย Gorilla Glass Victus เพื่อความแข็งแรงอีกขั้น
ได้ชิประดับเรือธงรุ่นแรก อัพเกรดความลื่นได้เป็นอย่างดี
สำหรับชิปประมวลผลของ Xiaomi 12s Ultra และทุกรุ่นในซีรีส์ของ Xiaomi 12s นั้นจะใช้ตัวเดียวกันหมดนั่นก็คือ Snapdragon 8+ Gen 1 บนสถาปัตยกรรม 4nm ของ TSMC ที่เพิ่มประสิทธิภาพให้ CPU กว่าเดิมถึง 10% และกินพลังงานน้อยลงมากถึง 30% เลยด้วย ส่วน GPU รุ่นนี้ก็ได้ตัว Adreno 730 เข้ามาช่วยเสริมทำให้รุ่นนี้มีประสิทธิภาพในหลายๆ ด้านพร้อมกัน ไม่ว่าจะเล่นเกมก็ไหลลื่น เน้นถ่ายรูปก็ไม่มีสะดุด และยังมีขนาดความจำ RAM 8GB / 12GB LPDDR5 กับความจุตัวเครื่อง ROM 256GB / 512GB UFS 3.1
นอกจากนี้ Xiaomi 12s Ultra ยังมีระบบระบายความร้อนแบบไบโอนิค ที่ได้เปลี่ยนจากรูปแบบตาข่ายทองแดงแบบเดิมเป็นทองแดงขนาดใหญ่แบบ Pulse ช่วยระบายได้ดีกว่ามากๆ พร้อมกับมี Xiaomi Dynamic Performance ที่ช่วยควบคุมทั้งอุณหภูมิการเล่นเกม กับอัตราเฟรมเรทต่างๆ และการจัดการพลังงานที่น้อยลงอีกด้วย โดยรุ่นนี้ก็ได้ทำงานบนระบบ Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 13 เชื่อมต่อได้ทั้ง 5G, WiFi 6+, WiFi 5 และ Blutooth 5.2 รวมไปถึง NFC ด้วย ส่วนลำโพงของรุ่นนี้จะเป็นลำโพงคู่ที่ทำร่วมกับ Harman Kardon รองรับเสียงระดับ Hi-Res และ Dolby ATMOS ที่ให้เสียงสมจริงกระจายรอบทิศทาง กับการรองรับเนื้อหาบนวิดีโอระดับ Dolby Vision ด้วย
กล้องหน้า และกล้องหลังระดับเทพร่วมกับ LEICA
มาที่จุดเด่นสุดๆ ของ Xiaomi 12s Ultra รุ่นนี้กันเลย ที่รุ่นนี้ก็ทำขึ้นมาสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปหรือสายถ่ายภาพแน่นอนอยู่แล้ว โดยกล้องหน้าของรุ่นนี้มีความละเอียด 32MP (ƒ/2.5) ที่เซลฟี่ได้สวยๆ อยู่แล้ว ส่วนกล้องหลังนั้นจะเป็นกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียดหลักเลนส์ไวด์ 50MP (ƒ/1.9) ประกอบไปด้วยเลนส์ 8 ชิ้น มีทางยาวโฟกัสเทียบเท่าระดับ 23 มม. ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ Sony IMX989 ขนาด 1 นิ้วระดับสูงสุดแล้วในตอนนี้ ช่วยทั้งการลดแสงสะท้อน ลดนอยซ์และควบคุมแสงให้คมชัดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือช่วงกลางคืนก็ตาม พร้อมกับมีกันสั่น OIS ในตัวอีกด้วย ส่วนเลนส์ต่อมาเป็นเลนส์ Periscope Telephoto 48MP (ƒ/4.1) ทางยาวโฟกัส 120 มม. พร้อมเซนเซอร์ Sony IMX586 ซูมแบบออพติคอลได้ 5 เท่าและซูมแบบดิจิทัลได้ถึง 120 เท่าเลยทีเดียว รวมไปถึงกันสั่น OIS และกันสั่น Zoom EIS อีกด้วย ส่วนเลนส์สุดท้ายเป็น Ultra Wide 48MP (ƒ/2.2) ที่กว้างได้มากถึง 128 องศาพร้อมออโต้โฟกัสในตัว และมีโฟกัส dTOF เซนเซอร์ที่ช่วยให้ถ่ายได้รายละเอียดแม่นยำมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ Xiaomi 12s Ultra ยังถ่ายวิดีโอได้แบบ Dolby Vision HDR 10 bit ระดับ 4K ไม่ว่าจะถ่ายแนวตั้ง-นอน หรือถ่าย Vlog ก็ทำได้สบายๆ ส่วนตัวเลนส์กล้องที่ทำร่วมกับ LEICA ในระดับเทพแล้วทาง LEICA เองก็ได้ใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปในรูปแบบของฟิลเตอร์ด้วย Leica Classic กับฟิลเตอร์สีสันจาก LEICA อีก 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็น Leica Vivid, Leica Natural, Monochrome และ Monochrome HC และยังมีเลนส์ขาว-ดำแบบ 35 mm. เลนส์โรตารี่แบบ 50 mm. หรือแบบซอฟท์โฟกัส 90 mm. เหมือนกับกล้องฟิล์ม พร้อมกับเสียงชัตเตอร์แบบ LEICA เพิ่มความสมจริงเข้าไปอีก รวมไปถึงการถ่ายเป็นไฟล์ DNG RAW เพื่อเปิดใน Adobe Lightroom, Photoshop ได้ด้วย
แบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง
ปิดท้ายด้วยเรื่องของแบตเตอรี่ของ Xiaomi 12s Ultra รุ่นนี้ที่ไม่ได้เน้นมาแค่ความแรง หรือเรื่องกล้องอย่างเดียว แต่ตัวแบตเตอรี่ของรุ่นนี้ก็มีชิปในการจัดการพลังงานอยู่ในตัวถึง 2 ตัวเลยด้วย โดยตัวแรกจะเป็น Xiaomi Surge P1 ที่เอาไว้ควบคุมการชาร์จเร็ว และช่วยควบคุมความร้อนในการชาร์จแบต ส่วนอีกตัวคือ Xiaomi Surging G1 ทำหน้าที่จัดการกับตัวแบตให้มีประสิทธิภาพ ช่วยดูแลคุณภาพแบตเพื่อยืดอายุการใช้งาน และช่วยควบคุมพลังงานเพื่อให้ใช้ได้แบบประหยัดอีกด้วย ส่วนความจุแบตรุ่นนี้มี 4,860 mAh รองรับFast charging 67W แบบไร้สาย 50W และแบบ Reverse 10W ชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียง 41 นาที หรือชาร์จแบบไร้สายในเวลา 50 นาที ส่วนราคาจะมีให้เลือกตามขนาดความจุ 3 รุ่น เป็นราคาหยวนจากจีน ยังไม่ได้มีราคาอย่างเป็นทางการในไทยดังนี้
- รุ่น RAM 8GB/ ROM 256GB ราคา 5999 หยวนหรือประมาณ 32,xxx บาท
- รุ่น RAM 12GB/ ROM 256GB ราคา 6499 หยวนหรือประมาณ 34,xxx บาท
- รุ่น RAM 12GB/ ROM 512GB ราคา 6999 หยวนหรือประมาณ 37,xxx บาท
ทั้งนี้การนำเข้ามาวางในไทย หรือว่านำมาขายแบบสากลนั้นยังไม่ได้มีข่าวว่าจะเปิดมาขายช่วงไหน และมีข่าวลือมาว่าอาจจะไม่ได้วางขายทั่วโลกด้วย ก็ต้องมารอลุ้นกันอีกทีว่าบ้านเราจะได้ใช้กันหรือไม่ แต่ก็คาดว่าอาจจะเป็นเหมือนกับ Xiaomi 11 Ultra แต่อาจจะเข้ามาแบบจำกัดก็เป็นได้
ตารางเปรียบเทียบสเปค Xiaomi 12s Ultra กับรุ่นอื่นของ Xiaomi
ข้อมูล\ รุ่น | Xiaomi 12s Ultra | Xiaomi 12s Pro | Xiaomi 12s | Xiaomi 12 Pro |
หน้าจอ | LTPO 2.0 AMOLED กว้าง 6.73 นิ้ว | LTPO 2.0 AMOLED กว้าง 6.73 นิ้ว | AMOLED กว้าง 6.23 นิ้ว | LTPO AMOLED กว้าง 6.73 นิ้ว |
ชิป | Snapdragon 8+ Gen 1 | Snapdragon 8+ Gen 1 | Snapdragon 8+ Gen 1 | Snapdragon 8 Gen 1 |
กล้องหน้า | 32MP | 32MP | 32MP | 32MP |
กล้องหลัง | Wide: 50MP Ultrawide: 48MP Periscope Telephoto: 48MP LEICA | Wide: 50MP Ultrawide: 50MP Telephoto: 50MP LEICA | Wide: 50MP Ultrawide: 13MP Macro-Tele: 5MP LEICA | Wide: 50MP Ultrawide: 50MP Telephoto: 50MP |
RAM/ ROM | 8-12GB/ 256-512GB | 8-12GB/ 128-256GB | 8-12GB/ 128-256GB | 12GB/ 256GB |
แบตเตอรี่ | 4860 mAh | 4600 mAh | 4500 mAh | 4600 mAh |
ราคา | 32,xxx บาท | 25,xxx บาท | 21,xxx บาท | 31,990 บาท |
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสเปค และรายละเอียดต่างๆ ของ Xiaomi 12s Ultra รุ่นท็อปตัวเทพที่สุดของซีรีส์ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งรุ่นนี้ก็ไม่ได้ทำออกมาให้เด่นหรือดีแค่กล้องเท่านั้น เพราะถ้าดูสเปคอย่างอื่นโดยรวมแล้วก็ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ ในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ตัวเครื่องที่ดูสวยงาม เหมือนกับมีกล้องพกติดตัวตลอดเวลา หน้าจอที่คมชัด ประหยัดพลังงาน ชิปที่เร็วแรง เล่นเกมได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด แบตเตอรี่ที่มีชิปควบคุมทั้งด้านประสิทธิภาพและการชาร์จ กับตัวกล้องที่ทำออกมาได้เหนือใครในตอนนี้ของจริง ก็ต้องมารอลุ้นกันอีกครั้งว่าบ้านเราจะมีโอกาสได้เห็น หรือได้ใช้กันหรือไม่ แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก Xiaomi