ขอแนะนำแอป Vitals, Training Load, วิธีใหม่ๆ ในการปรับแต่งวงแหวนกิจกรรม, การปรับแต่งอันชาญฉลาดสำหรับวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะและหน้าปัดรูปภาพ และแอปแปลภาษาบน Apple Watch
วันนี้ Apple ได้เผยโฉม watchOS 11 พร้อมด้วยคุณสมบัติที่ต่อยอดจากเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ชั้นนำ อัลกอริทึมขั้นสูง และแนวทางตามหลักวิทยาศาสตร์ของ Apple Watch เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกสุดล้ำเกี่ยวกับสุขภาพและความฟิตของผู้ใช้ ตลอดจนการปรับแต่งที่มากกว่าที่เคย แอป Vitals ใหม่จะแสดงตัวชี้วัดที่สำคัญเกี่ยวกับสุขภาพและบริบทที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้ใช้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากขึ้นในแต่ละวัน และความสามารถของ Apple Watch ในการวัดความหนักในการฝึกซ้อมจะช่วยมอบประสบการณ์ใหม่ที่เป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงความฟิตและประสิทธิภาพในการออกกำลังกายให้ดียิ่งขึ้น วงแหวนกิจกรรมสามารถปรับแต่งได้มากกว่าเดิม ขณะที่วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะและหน้าปัดรูปภาพต่างก็ใช้ระบบอัจฉริยะเพื่อนำเสนอสิ่งที่เข้ากับผู้ใช้แต่ละรายมากขึ้น นอกจากนี้ Apple Watch และแอปสุขภาพบน iPhone และ iPad ยังมอบการสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ที่กำลังตั้งครรภ์อีกด้วย และวันนี้ คุณสมบัติเช็คอิน แอปแปลภาษา และความสามารถใหม่ๆ ของคำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง” ก็พร้อมใช้งานบน Apple Watch เช่นกัน เพื่อการเชื่อมต่อกับเรื่องต่างๆ และความสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้น
“watchOS คือระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์สวมใส่ที่ทันสมัยที่สุดในโลก ซึ่งช่วยสนับสนุนให้ผู้ใช้ Apple Watch มีสุขภาพที่ดี แอ็คทีฟ และเชื่อมต่อกับเรื่องต่างๆ อยู่เสมอ” David Clark ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย watchOS Engineering ของ Apple กล่าว “ภายในปีนี้ watchOS 11 จะทำให้ Apple Watch เป็นคู่หูที่ขาดไม่ได้ยิ่งขึ้นไปอีก โดยจะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพและฟิตเนสที่ใช้ประโยชน์ได้จริง การปรับแต่งที่มากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ และวิธีใหม่ๆ ในการเชื่อมต่อกับเรื่องต่างๆ ขณะเดินทาง”
แอป Vitals นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ละเอียดยิ่งขึ้นเกี่ยวกับตัวชี้วัดด้านสุขภาพที่สำคัญ
Apple Watch ช่วยให้ผู้ใช้ วัดข้อมูลด้านสุขภาพที่สำคัญระหว่างการนอนหลับ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ อุณหภูมิที่ข้อมือ ระยะเวลาการนอนหลับ และออกซิเจนในเลือด ขณะที่แอป Vitals ใหม่ใน watchOS 11 จะช่วยให้ผู้ใช้ดูตัวชี้วัดด้านสุขภาพที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจบริบทเกี่ยวกับสุขภาพของตนได้ดีขึ้น Apple Watch จะวิเคราะห์ข้อมูลตัวชี้วัดเหล่านี้ เพื่อให้ผู้ใช้ตรวจสอบสถานะสุขภาพประจำวันพร้อมทั้งดูตัวชี้วัดที่น่าสนใจได้อย่างรวดเร็ว และเห็นตัวชี้วัดที่อยู่นอกเกณฑ์ปกติได้อย่างง่ายดาย ผู้ใช้สามารถรับการแจ้งเตือนเมื่อตัวชี้วัดตั้งแต่สองตัวขึ้นไปอยู่นอกเกณฑ์ปกติ และดูข้อความแสดงรายละเอียดว่าการเปลี่ยนแปลงในตัวชี้วัดเฉพาะเหล่านี้ อาจเชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง เช่น ระดับความสูงที่มีการเปลี่ยนแปลง การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่ความเจ็บป่วย
คุณสมบัติด้านสุขภาพของ Apple มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ และได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญทางคลินิก แอป Vitals ใช้อัลกอริทึมที่พัฒนาขึ้นโดยข้อมูลจริงจากการศึกษาเรื่องหัวใจและการเคลื่อนไหวของ Apple (Apple Heart and Movement Study) ซึ่งเป็นการวิจัยที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจและการออกกำลังกาย เพื่อแจ้งเตือนและจำแนกประเภทสัญญาณชีพที่อยู่นอกเกณฑ์ปกติ
การสนับสนุนเพิ่มเติมในระหว่างตั้งครรภ์
watchOS 11, iOS 18 และ iPadOS 18 มอบประสบการณ์เพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ที่ตั้งครรภ์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตของพวกเขาในช่วงเวลาที่สำคัญ เมื่อผู้ใช้บันทึกการตั้งครรภ์ในแอปสุขภาพบน iPhone หรือ iPad แอปการติดตามรอบเดือนบน Apple Watch จะแสดงอายุครรภ์และให้ผู้ใช้บันทึกอาการต่างๆ ที่พบบ่อยในระหว่างตั้งครรภ์ พวกเขายังจะได้รับแจ้งให้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เช่น เกณฑ์การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจที่สูง เนื่องจากอัตราการเต้นของหัวใจมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์
ผู้ใช้ที่ตั้งครรภ์สามารถเลือกรับแจ้งเตือนจากแอปสุขภาพบน iPhone หรือ iPadให้เข้ารับการประเมินสุขภาพจิตเป็นประจำทุกเดือนได้ เนื่องจากผู้ที่ตั้งครรภ์อาจมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะต่างๆ เช่น ภาวะซึมเศร้าในระหว่างและหลังการตั้งครรภ์ ความมั่นคงในการเดินซึ่งวัดโดย iPhone ยังสามารถแจ้งเตือนผู้ใช้ถึงความเสี่ยงในการล้มได้รวดเร็วยิ่งขึ้นในระหว่างไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ใช้อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
ข้อมูลใหม่อันทรงพลังเกี่ยวกับ Training Load
watchOS 11 ขอแนะนำ Training Load ซึ่งเป็นวิธีใหม่ในการวัดความเข้มข้นและระยะเวลาในการออกกำลังกายเพื่อทำความเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อร่างกายของผู้ใช้เมื่อเวลาผ่านไปอย่างไรบ้าง Training Load ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจความตึงเครียดของร่างกายจากการออกกำลังกายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วง 28 วันที่ผ่านมา ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการฝึกซ้อมในแต่ละวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเตรียมตัวสำหรับกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง 5K ครั้งแรก การแข่งขันจักรยาน หรือการวิ่งมาราธอน
Effort Rating ซึ่งใช้ในการวัดความเข้มข้นของการออกกำลังกายจะแสดงหลังการออกกำลังกายแต่ละครั้งเพื่อให้ผู้ใช้ติดตามความยากของการออกกำลังกายในระดับตั้งแต่ 1 ถึง 10 ประเภทการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอยอดนิยมจะใช้อัลกอริทึมใหม่เพื่อสร้างค่าประมาณของ Effort Rating โดยอัตโนมัติ โดยจะคำนวณจากข้อมูลต่างๆ เช่น อายุ ส่วนสูง และน้ำหนัก ควบคู่ไปกับข้อมูลการออกกำลังกาย เช่น GPS อัตราการเต้นของหัวใจ และระดับความสูง ผู้ใช้ยังสามารถปรับค่าประมาณนี้ด้วยตนเองเพื่อรวมปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเครียดหรืออาการปวดระบมเข้าไปด้วย และสำหรับการออกกำลังกายที่ไม่มีการคำนวณค่าประมาณโดยอัตโนมัติ เช่น การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ผู้ใช้จะได้รับแจ้งเตือนเพื่อให้กรอก Effort Rating ของตนหลังการออกกำลังกายแต่ละครั้ง
Apple Watch จะสร้าง Training Load ในช่วง 28 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ใช้ทั้งระยะเวลาในการออกกำลังกายและ Effort Rating ของผู้ใช้มาคิดคำนวณ ผู้ใช้สามารถดูในแอปกิจกรรมได้ว่า Training Load ในช่วง 7 วันล่าสุดเป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับ Training Load ในช่วง 28 วันที่ผ่านมา โดยจำแนกเป็น Well below, Below, Steady, Above หรือ Well above ซึ่งข้อมูลนี้จะช่วยบ่งชี้ระดับความเครียดของร่างกายว่าเพิ่มขึ้น คงเดิม หรือผ่อนคลายลง ผู้ใช้จะได้ปรับการฝึกซ้อมให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และข้อมูลในแอปฟิตเนสบน iPhone จะแสดงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความฟิตของผู้ใช้ หากยังคงฝึกที่ระดับความเข้มข้นในปัจจุบัน เช่น ความฟิตที่อาจเปลี่ยนแปลงไปหรือความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ
สถานะสุขภาพประจำวันของผู้ใช้และความสามารถในการฝึกซ้อมอาจมีความเกี่ยวพันกัน ดังนั้น ผู้ใช้จึงสามารถดู Training Load ควบคู่ไปกับข้อมูลในแอป Vitals จากแอปกิจกรรมบน Apple Watch หรือแอปฟิตเนสบน iPhone ได้ และผู้ใช้ยังสามารถดู Training Load ของตนภายในแอป Vitals ได้ด้วย
การปรับแต่งที่มากกว่าเดิมสำหรับวงแหวนกิจกรรมและแอปฟิตเนส
ในแต่ละวัน วงแหวนกิจกรรมจะกระตุ้นให้ผู้ใช้ Apple Watch ลุกยืนให้บ่อยขึ้น เคลื่อนไหวให้มากขึ้น และออกกำลังกายสักหน่อย ซึ่งครั้งนี้ watchOS 11 จะช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งสิ่งเหล่านั้นได้มากกว่าเดิม ไม่ว่าผู้ใช้จะวางแผนวันพักระหว่างการฝึกซ้อม ได้รับบาดเจ็บ หรือแค่ต้องการวันหยุด ตอนนี้ ผู้ใช้จะสามารถหยุดวงแหวนชั่วคราวเป็นเวลาหนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน หรือนานกว่านั้น โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการได้รับรางวัลสถิติต่อเนื่อง ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งเป้าหมายวงแหวนกิจกรรมตามวันในสัปดาห์ เพื่อให้วงแหวนมอบแรงจูงใจที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่เหมาะสมได้แล้ว
นอกจากนี้ แอปฟิตเนสบน iPhone ยังให้ผู้ใช้ปรับแต่งแถบสรุปเพื่อดูข้อมูลที่ต้องการได้แบบเป๊ะๆ ซึ่งรวมถึงตัววัดใหม่ๆ สำหรับการออกกำลังกาย เช่น การวิ่ง การเดินป่า การว่ายน้ำ และการทำสมาธิ
วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะและหน้าปัดรูปภาพเพิ่มการปรับแต่งสำหรับผู้ใช้
Apple Watch มอบวิธีต่างๆ มากมายให้ผู้ใช้ปรับแต่งประสบการณ์ของตนเอง และการอัปเดตใน watchOS 11 ครั้งนี้จะทำให้ผู้ใช้ปรับแต่ง Apple Watch ได้มากขึ้นและสะดวกยิ่งกว่าที่เคย
วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็วจากหน้าปัดนาฬิกา และใน watchOS 11 ข้อมูลดังกล่าวยังชาญฉลาดยิ่งขึ้นด้วย วิดเจ็ตใหม่ๆ รวมถึง Shazam, รูปภาพ, ระยะทาง และอีกมากมายพร้อมให้ใช้งานแล้ว นอกจากนี้ วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะยังสามารถแนะนำวิดเจ็ตตามเวลา วันที่ สถานที่ เวลาเข้านอน กิจวัตรประจำวัน และอีกมากมายซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงคุณสมบัติที่ต้องการบน Apple Watch ได้ง่ายดายกว่าเดิม เช่น วิดเจ็ตการแจ้งเตือนสภาพอากาศที่รุนแรงใหม่ซึ่งสามารถแสดงก่อนเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง วิดเจ็ตแบบอินเทอร์แอ็คทีฟใหม่ยังช่วยให้ผู้ใช้โต้ตอบกับแอปได้โดยตรงจากวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ และตอนนี้กิจกรรมสดก็สามารถใช้งานบน Apple Watch ภายในวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะได้แล้ว
หน้าปัดรูปภาพใน watchOS 11 ช่วยให้ผู้ใช้เลือกรูปภาพที่ดีที่สุดโดยการวิเคราะห์รูปภาพนับพันอย่างรวดเร็วโดยใช้การเรียนรู้ของระบบ และให้คำแนะนำตามความสวยงาม องค์ประกอบภาพ และแม้แต่การแสดงออกทางสีหน้า จากนั้น อัลกอริทึมแบบเฉพาะจะหาองค์ประกอบที่ดีที่สุดโดยการปรับตำแหน่งของตัวแบบภายในเฟรมให้เหมาะสมกับหน้าปัดและสร้างมุมมองความลึก ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าปัดเพิ่มเติมด้วยการเลือกขนาดของเวลา เลย์เอาท์ ตัวเลือกแบบอักษร และอื่นๆ อีกมากมาย และตอนนี้ หน้าปัดรูปภาพยังมาพร้อมโหมดไดนามิกเพื่อให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับภาพใหม่ๆ ได้ทุกครั้งที่ยกข้อมือขึ้น
สะดวกสบายยิ่งขึ้นและเชื่อมต่อกับทุกเรื่องได้มากขึ้น
วันนี้ คุณสมบัติเช็คอินพร้อมให้ใช้งานแล้วบน Apple Watch รวมถึงในระหว่างออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับทุกเรื่องได้มากขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าผู้ใช้จะออกไปวิ่งตอนเช้าตรู่หรือไปเข้ายิมตอนดึก พวกเขาก็สามารถเข้าถึงคุณสมบัติเช็คอินได้โดยตรงภายในแอปออกกำลังกาย เพื่อให้เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวติดตามดูการออกกำลังกายได้จนจบ ผู้ใช้ยังสามารถเริ่มเช็คอินได้จากแอปข้อความเช่นเดียวกับที่ทำบน iPhone
วันนี้ แอปแปลภาษาใช้งานได้แล้วบน Apple Watch ผู้ใช้จึงสามารถเข้าถึงการแปลสำหรับหนึ่งใน 20 ภาษาที่รองรับได้โดยตรงจากข้อมือ ความสามารถใหม่อันชาญฉลาดของวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะยังช่วยให้ Apple Watch นำเสนอวิดเจ็ตแอปแปลภาษาที่แนะนำโดยอัตโนมัติ เมื่อผู้ใช้เดินทางไปยังที่ที่ใช้ภาษาแตกต่างไปจากภาษาบน Apple Watch แอปแปลภาษายังสามารถถอดคำเป็นอักษรโรมัน และแสดงการออกเสียงสำหรับภาษาต่างๆ โดยใช้อักษรละตินได้ด้วย
นอกจากนี้ ยังรองรับคำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง” เพื่อการเลื่อนดูแอปต่างๆ เช่น ข้อความ ปฏิทิน หรือสภาพอากาศ เพื่อให้ผู้ใช้โต้ตอบกับ Apple Watch ได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยมือเดียว
การอัปเดตเพิ่มเติมใน watchOS 11 มีดังนี้
- แอปออกกำลังกาย มาพร้อมประเภทการออกกำลังกายมากกว่าเดิมและสามารถติดตามระยะทางได้โดยใช้การระบุตำแหน่ง GPS ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงกีฬาฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล ออสเตรเลียนฟุตบอล ฮอกกี้กลางแจ้ง ลาครอส สกีลงเขา สกีวิบาก สโนว์บอร์ด กอล์ฟ เรือพายกลางแจ้ง และอีกมากมาย ผู้ใช้ยังสามารถดูแผนที่เส้นทางสำหรับประเภทการออกกำลังกายเพิ่มเติมได้ด้วย
- การออกกำลังกายที่กำหนดเอง สามารถใช้กับการว่ายน้ำในสระได้แล้ว โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งการออกกำลังกายแบบหนักสลับเบาที่แบ่งเป็นเซ็ตสำหรับช่วงเวลาการออกแรงและการฟื้นตัว และยังมีการสั่นเบาๆ เพื่อส่งสัญญาณว่าถึงเวลาเข้าสู่ช่วงถัดไปแล้ว มุมมองการออกกำลังกาย “Up Next” ใหม่ในการออกกำลังกายที่กำหนดเองทุกรูปแบบสามารถแสดงกิจกรรมที่เหลืออยู่ในช่วงปัจจุบันและแสดงภาพรวมของช่วงที่กำลังจะมาถึงได้
- Apple Maps มาพร้อมเส้นทางเดินป่าในอุทยานแห่งชาติทุกแห่งของสหรัฐอเมริกา ซึ่งสามารถบันทึกลงใน Apple Watch และเข้าถึงแบบออฟไลน์ พร้อมรับคำแนะนำแบบเลี้ยวต่อเลี้ยวได้ แม้จะไม่มี iPhone อยู่ใกล้ๆ ผู้ใช้ยังสามารถสร้างเส้นทางเดินป่าและเส้นทางเดินเท้าของตนเองภายในแอปแผนที่บน iPhone และบันทึกเส้นทางเพื่อใช้นำทางในภายหลังโดยใช้แค่ Apple Watch เพียงอย่างเดียว
- การแจ้งเตือนโดยสรุป ซึ่งขับเคลื่อนโดย Apple Intelligence จะได้รับการส่งต่อจาก iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มายัง Apple Watch1
- การออกตั๋วที่ดียิ่งขึ้น จะปรับปรุงข้อมูลที่แสดงบนตั๋วของผู้ใช้ในแอปกระเป๋าสตางค์ Apple เช่น เวลาเปิดเข้าชมและเวลาที่การแสดงเริ่ม กิจกรรมสดจะเริ่มต้นเมื่อผู้ใช้อยู่งาน เพื่อให้ผู้ใช้ดูเลขที่นั่งและข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่ด้านบนของวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะได้
- Tap to Cash ช่วยให้ผู้ใช้ส่งและรับ Apple Cash ได้ง่ายๆ เพียงแค่ถือ Apple Watch ไว้ใกล้ๆ กับ Apple Watch หรือ iPhone อีกเครื่อง
เครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนา
watchOS 11 มี API ใหม่ที่ช่วยให้นักพัฒนาใช้ประโยชน์จากความชาญฉลาดและความสามารถที่เพิ่มขึ้นของวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะและประสบการณ์สุดมหัศจรรย์ด้วยคำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง”
นักพัฒนาสามารถเพิ่มสัญญาณที่เกี่ยวข้อง เช่น เวลาและวันที่ เพื่อให้ข้อมูลสำคัญจากแอปปรากฏในเวลาที่เหมาะสมในวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ และตอนนี้ยังเพิ่มความสามารถต่างๆ เช่น การโต้ตอบให้กับวิดเจ็ตของตนได้ด้วย กิจกรรมสดจะปรากฏในวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้ดูการอัปเดตได้แบบเรียลไทม์ เช่น เมื่อคำสั่งซื้อพร้อมแล้วที่ Panera Bread หรือเมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่องกับ Flighty นักพัฒนาสามารถใช้ API เพื่อปรับแต่งการแสดงข้อมูลของกิจกรรมสดบน Apple Watch ได้ด้วย
นอกจากนี้ API สำหรับ “แตะสองครั้ง” ใหม่ยังช่วยให้นักพัฒนากำหนดแอ็คชั่นในแอปที่ผู้ใช้สามารถทำได้ด้วยมือเดียว เช่น การบันทึกเวลานอนหลับของลูกน้อยในแอป Baby Tracker ของ Sprout
ความเป็นส่วนตัว
ความเป็นส่วนตัวเป็นพื้นฐานในการออกแบบและพัฒนาคุณสมบัติสุขภาพทั้งหมดของ Apple และเมื่ออุปกรณ์ของผู้ใช้งานถูกล็อคด้วยรหัสผ่าน, Touch ID หรือ Face ID ข้อมูลสุขภาพและฟิตเนสทั้งหมดที่อยู่ในแอปสุขภาพ นอกเหนือจากข้อมูล ID ทางแพทย์แล้ว ก็จะถูกเข้ารหัส นอกจากนี้ข้อมูลสุขภาพใดๆ ก็ตามที่สำรองไว้ใน iCloud ก็จะได้รับการเข้ารหัสทั้งในระหว่างรับส่งและเมื่ออยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของ Apple นอกจากนี้เมื่อใช้ iOS, iPadOS และ watchOS ที่มีการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยพร้อมด้วยรหัสผ่านเป็นค่าเริ่มต้น ข้อมูลของแอปสุขภาพที่ซิงค์ไปยัง iCloud ก็จะได้รับการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ซึ่งหมายความว่าแม้แต่ Apple เองก็ไม่มีคีย์สำหรับถอดรหัสข้อมูล และไม่สามารถอ่านข้อมูลนั้นได้
ความพร้อมใช้งาน
สมาชิกโปรแกรมนักพัฒนา Apple สามารถใช้งาน watchOS 11 รุ่นเบต้าสำหรับนักพัฒนาได้ที่ developer.apple.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และผู้ใช้ watchOS จะสามารถใช้งานรุ่นเบต้าสำหรับบุคคลทั่วไปได้ในเดือนหน้าที่ beta.apple.com watchOS 11 จะพร้อมใช้งานภายในปีนี้ในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีสำหรับ Apple Watch Series 6 หรือใหม่กว่า ที่จับคู่กับ iPhone Xs หรือใหม่กว่าที่ใช้ iOS 18 คุณสมบัติบางประเภทอาจใช้ไม่ได้ในบางภูมิภาค บางภาษา หรือบางอุปกรณ์ คุณสมบัติอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th/watchos/watchos-previewเกี่ยวกับ Apple Apple ได้ปฏิวัติเทคโนโลยีส่วนบุคคลด้วยการเปิดตัว Macintosh สู่ท้องตลาดตั้งแต่ปี 1984 ในวันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac, AirPods, Apple Watch และ Apple Vision Pro แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ทั้ง 6 แพลตฟอร์มของ Apple ได้แก่ iOS, iPadOS, macOS, watchOS, visionOS และ tvOS มอบประสบการณ์การใช้งานอย่างต่อเนื่องบนอุปกรณ์ต่างๆ ของ Apple ทั้งหมด พร้อมเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้คนด้วยบริการที่ก้าวล้ำอย่าง App Store, Apple Music, Apple Pay, iCloud และ Apple TV+ พนักงานของ Apple กว่า 150,000 คนทุ่มเทแรงกายแรงใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดระดับโลก และทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นกว่าเดิม
- Apple Intelligence เปิดให้ทุกคนใช้ฟรี และจะมีให้ใช้งานในรุ่นเบต้าโดยรวมเป็นส่วนหนึ่งใน iOS 18, iPadOS 18 และ macOS Sequoia ภายในปีนี้ ในภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกา ในขณะที่คุณสมบัติบางประเภท แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ และภาษาอื่นๆ จะทยอยเปิดให้ใช้งานในปีหน้า Apple Intelligence จะสามารถใช้งานได้บน iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max และ iPad และ Mac ที่มีชิป M1 หรือใหม่กว่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com/apple-intelligence