การประมูล 3G ของประเทศไทยที่จัดขึ้นโดย กสทช. ดูเหมือนจะไม่สามารถหาข้อสรุปได้ง่ายๆ นอกจากนักวิชาการด้านโทรคมนาคมจะไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขการประมูลที่ กสทช. ได้จัดขึ้นมาเเล้ว ก็มีเครือข่ายอีกสององค์กรได้เตรียมยื่นระงับประมูลในวันที่ 15 ตุลาคมนี้เช่นกัน
โดยกลุ่มเเรกคือเครือข่ายโทรคมนาคมเพื่อประชาชน ที่เสนอโครงการ 3G-200 ที่ให้ค่าใช้จ่ายสูงสุดของ 3G อยู่ในราคาเดือนละ 200 บาทเเละสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้โดยไม่จำกัดจำนวนข้อมูล ซึ่งทางกลุ่มได้ศึกษาตัวเลขเเล้วว่าผู้ให้บริการสามารถทำราคา 3G ที่เสนอไปได้เเละยังมีกำไรที่ดีอยู่ ทางกลุ่มยังได้บอกว่าถ้าระยะเวลาใช้งานสัมปทานตามสัญญา 15 ปีนั้นจะทำให้ประชาชนประหยัดเงินไปถึง 1.5 ล้านล้านบาท ทางกลุ่มได้ยื่นข้อเสนอนี้ไปเเล้วเเละทาง กทสช ก็ได้เเสดงความเห็นด้วยกับโครงการนี้เเต่ภายหลังก็ไม่มีการดำเนินนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมว่าจะมีโครงการนี้เกิดขึ้่นมาจริงๆ หลังการประมูล
ส่วนอีกกลุ่มคือเครือข่ายภาคประชาชน 10 เครือข่าวพร้อมกับผู้ประสานงานกลุ่มกรีนคือนายสุริยะใส กตะศิลา ก็ได้ยื่นขอระงับประมูลเช่นเดียวกัน เเต่เหตุผลอยู่ที่ต้องการให้ราคาประมูลสูงกว่าราคาต้นที่ 4,500 ล้านบาท เพื่อไม่ให้เกิดการสมยอมเพื่อหาประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้ประมูลทั้ง 3 ราย
กสทช. ได้รับการวิพาษ์วิจารณ์ในเรื่องการจัดประมูลเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับผู้ประมูลมาก โดยเฉพาะการจำกัดจำนวนคลื่นความถี่สูงสุดไว้ที่ 15 MHz ต่อผู้ประมูลหนึ่งรายจากจำนวน 45 MHz เเต่ผู้ประมูลมีเพียง 3 รายเท่านั้นนั้นหมายความว่าผู้ประมูลทุกคนไม่จำเป็นต้องเสนอราคาเพิ่มเพราะอย่างไรก็ได้คลื่นไปเท่ากันทุกคนอยู่เเล้ว ผู้ที่เสียประโยชน์ก็คือรัฐบาลที่จะได้เงินจากการประมูลน้อยกว่าที่ควรจะเป็นมาก ส่วนกลุ่มที่ยื่นระงับนั้นก็ถูกตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงต้องยื่นระงับในช่วงใกล้ประมูล ทั้งๆ ที่มีการขอประชาพิจารณ์มาก่อนหน้านี้เเล้วถึง 90 วันเเต่ก็ไม่มีการประท้วงหรือไม่ออกมาเเสดงความคิดเห็นในเงื่อนไขดังกล่าว