ก่อนที่จะมาถึงยุคของ iPhone ในปัจจุบัน สินค้าที่ได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโตสูงมากของ Apple ก็คือ iPod ด้วยดีไซน์และคุณภาพที่ทำออกมาได้ดี ผสมกับความแข็งแกร่งของแบรนด์ Apple เอง ทำให้ iPod กลายเป็นสินค้าที่เข้ามาเปลี่ยนโลกการฟังเพลงจากยุคเทป/ซีดีให้กลายเป็นการฟังเพลงจากไฟล์ดิจิตอลแทน และได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง จนกระทั่ง Apple เปิดตัว iPhone ก็ทำให้ความนิยมในตัว iPod ลดลง เนื่องด้วยมันสามารถทำงานได้แทน iPod แทบจะทุกอย่างแล้ว ประกอบกับที่ Apple ลดความสำคัญของสินค้าตระกูล iPod ลง สังเกตได้จากการโฆษณาที่เน้นไปทาง iPhone กับ iPad มากกว่า
จากกระแสยอดขาย iPhone ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกรุ่นที่เปิดตัวขึ้นมาใหม่ ก็มีนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในช่วงไตรมาสสามของปีนี้ (เดือนกรกฎาคม-กันยายน) ยอดขายรวมของ iPhone นับตั้งแต่รุ่นแรกมาถึง iPhone 5 น่าจะแซงยอดขาย iPod ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2001 (นับถึงปัจจุบันก็เป็นเวลากว่า 12 ปี) ไปได้ โดยช่วง 12 ปีที่ผ่านมา iPod สามารถทำยอดขายไปได้ราวๆ 375 ล้านเครื่อง ส่วน iPhone ยอดขายรวมทั้งหมดตั้งแต่เปิดตัวในปี 2007 มาจนถึงไตรมาสสองของปีนี้ตกอยู่ที่ราวๆ 356 ล้านเครื่องด้วยกัน
โดยก่อนหน้านี้มีนักวิเคราะห์จาก Fortune (CNN) ประมาณการณ์เอาไว้ว่า ยอดขาย iPhone ในไตรมาสสามของปีนี้ น่าจะอยู่ที่ราวๆ 26.7 ถึง 27.9 ล้านเครื่อง ซึ่งสูงขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2012 ที่มียอดขายจริงประมาณ 26 ล้านเครื่อง ถ้าเอายอดประมาณการณ์ของไตรมาสสามมารวมกับยอดขายรวมจริงถึงไตรมาสสองที่ผ่านมา ก็จะได้ตามนี้ครับ
356,000,000 + 26,700,000 = 382,700,000
ซึ่งถ้าได้ตามยอดดังกล่าวจริง ยอดขายรวมทั้งหมดของ iPhone ที่วางขายมาเป็นเวลา 6 ปี ก็จะแซงยอดขายรวมของ iPod ที่วางขายมาเป็นเวลากว่า 12 ปีไปในที่สุดครับ (ดูแล้วก็แซงภายในปีนี้แน่นอน)
ว่าแต่ มีใครเป็นหนึ่งใน 356 ล้านเครื่องบ้างเอ่ย ^^
ที่มา : BGR, Fortune