สิ่งที่จำเป็นสำหรับสมาร์ตโฟนสายเกมเมอร์ในยุคนี้ก็จะมีอยู่หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นชิปที่แรง หน้าจอใหญ่ แบตอึด รวมถึงการมีระบบช่วยเสริมให้การเล่นเกมเป็นไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งต้องบอกว่ามือถือเครื่องที่ทางเรารีวิวในครั้งนี้มีให้มาอย่างครบครันทีเดียว เครื่องนั้นก็คือ Samsung Galaxy A72 มือถือรุ่นใหม่ในช่วงราคาหมื่นต้น ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมในราคาคุ้มค่าประจำช่วงต้นปี 2021 ซึ่งจากที่ผมลองแล้ว บอกเลยว่าทำได้ดีเกินราคาจริง ๆ
Samsung Galaxy A72 มาพร้อมกับความลงตัวในหลาย ๆ ด้าน ทำให้นอกเหนือจะเหมาะกับการเล่นเกมแล้ว ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในหลากหลายด้านอีกด้วย จากความครบครันในส่วนของสเปคและซอฟตแวร์ ที่มีระบบ AI มาเสริมประสิทธิภาพในหลาย ๆ ด้าน เอาเป็นว่าเรามาดูกันทีละจุดเลยดีกว่าครับ
สเปค Samsung Galaxy A72
- ชิปประมวลผล Snapdragon 720G พร้อมชิปกราฟิก Adreno 618
- แรม 8 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 128 GB รองรับ MicroSD เพิ่มได้สูงสุด 1 TB
- หน้าจอ Super AMOLED แบบ Infinity-O ขนาด 6.7″ FHD+ 90Hz แสดงภาพ HDR ได้
- รองรับ 4G LTE
- กล้องหลัง 4 เลนส์ มีระบบกันสั่น Super Steady รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K 30fps
- กล้องหลัก 64MP f/1.8 PDAF OIS
- อัลตร้าไวด์ 12MP f/2.2
- เทเล 8MP f/2.0 PDAF OIS รองรับการซูมออปติคอลได้สูงสุด 3 เท่า ซูมดิจิตอลสูงสุด 30 เท่า
- Depth วัดระยะ 5MP f/2.4
- กล้องหน้า 32MP f/2.2
- ลำโพงสเตอริโอ ระบบเสียง Dolby Atmos
- มีช่อง 3.5 มม.
- ถาดใส่ซิมแบบไฮบริด
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอ
- แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับการชาร์จไว 25W ผ่านช่อง USB-C (PD)
- Android 11 พร้อม One UI 3.1
- ราคา 13,999 บาท
ในภาพรวม สเปคของ Galaxy A72 นั้นก็จัดอยู่ในกลุ่มระดับกลางที่เล่นเกมในปัจจุบันได้สบายครับ แม้ชื่อรุ่นของ CPU อาจจะไม่ถึงระดับท็อป แต่ก็ให้ความแรงในระดับที่เพียงพอ พ่วงมาด้วยจุดเด่นในด้านการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับแบตเตอรี่ความจุสูง จึงทำให้สามารถเล่นเกมต่อเนื่องได้นานกว่า ในขณะเดียวกันก็ให้หน้าจอใหญ่ รีเฟรชเรต 90Hz มาด้วย ทำให้ภาพในเกม รวมถึงในการใช้งานทั่วไปนั้นดูลื่นไหล ระบบเสียงก็มีการจำลองทิศทางของเสียงที่มีมิติยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้จึงทำให้ Samsung Galaxy A72 เครื่องนี้น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการมือถือราคาไม่สูงมาก มาใช้เล่นเกมลื่น ๆ แบบไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ระหว่างวันมากนักได้เป็นอย่างดี
ตัวเครื่อง
การออกแบบตัวเครื่องของ Samsung Galaxy A72 ยังคงใช้เป็นรูปแบบที่คุ้นเคยอยู่ คือใช้หน้าจอทรง Infinity-O ที่วางกล้องหน้าเป็นจุดอยู่ภายในจอ ส่วนขอบจอนั้นก็ค่อนข้างบางในระดับหนึ่งครับ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นการปาดเพื่อเรียกใช้งาน Edge panels ตรงขอบจอทำได้สะดวก รวมถึงการรับชมเนื้อหาต่าง ๆ ก็ให้ความรู้สึกที่ดี ไม่รู้สึกว่าขอบจอหนาเกินจนรบกวนสายตา
คุณภาพของจอแสดงผลต้องยอมรับว่า Samsung ยังคงทำได้ดีอยู่เมื่อเทียบกับมือถือรุ่นอื่น ๆ ในช่วงราคาหมื่นต้นด้วยกัน จากการใช้พาเนล Super AMOLED ขนาด 6.7″ ความละเอียดระดับ FHD+ (2400×1080) ที่ให้ภาพคมชัด สีสันสดในแทบทุกมุมมอง แต่ถ้าเทียบแบบละเอียด จะพบว่าบริเวณที่เป็นสีดำ อาจจะยังดำไม่สนิทเท่ากับพวกมือถือจอ OLED รุ่นท็อป ซึ่งก็เป็นประเด็นที่เข้าใจได้ครับ
แต่อย่างไรก็ตาม จอของ Galaxy A72 ก็ยังชดเชยความสามารถด้านอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นรีเฟรชเรตสูงสุด 90Hz ที่ให้เฟรมเคลื่อนไหวที่มีความไหลลื่น ร่วมกับความสว่างของจอที่เร่งสูงสุดได้ถึงระดับ 800nits ทำให้สามารถเล่นวิดีโอ HDR 60fps ได้สบาย ให้ภาพที่ดูลื่นไหลมาก ๆ เท่าที่ผมลองแบบง่ายสุดคือเปิดวิดีโอ HDR 60fps บน YouTube ก็สามารถทำได้แบบไม่มีปัญหาเลยครับ ทั้งการแสดงผล และการสตรีมวิดีโอ ด้วยพลังของชิป Snapdragon 720G ที่รับมือได้อย่างง่ายดาย
ส่วนเรื่องเสียง ตัวเครื่องมาพร้อมลำโพงสเตอริโอ และระบบเสียง Dolby Atmos ด้วย ทำให้ได้เสียงจากลำโพงของตัวเครื่องที่ช่วยสร้างบรรยากาศได้ดี ได้มิติเสียงที่โอบล้อมรอบตัวได้ในระดับใกล้เคียงกับกลุ่มมือถือรุ่นท็อป ๆ เลย ส่วนโทนเสียงที่ได้ก็ตามปกติของมือถือครับ คือเน้นที่โทนกลางและโทนแหลมเป็นหลัก ใช้ฟังเพลง ดูหนังได้พอประมาณ
นอกจากนี้ยังมีการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ใต้จอด้วย ช่วยให้สามารถปลดล็อกหน้าจอได้ง่ายขึ้นแม้จะใส่หน้ากากอยู่ก็ตาม เท่าที่ผมลองสแกนดู ถ้าจะให้ดีที่สุดคือควรวางนิ้วบริเวณกลางเซ็นเซอร์ครับ ความแม่นยำ ความรวดเร็วก็อยู่ในระดับที่ใช้งานทั่วไปได้ระดับหนึ่ง
ส่วนการสแกนใบหน้าก็เป็นการสแกนทั้งรูปหน้าตามปกติ สามารถตั้งค่าบังคับให้ผู้ใช้ต้องลืมตาเพื่อสแกนได้ ตั้งค่าให้หน้าจอสว่างขึ้นมาเพื่อให้สามารถสแกนในที่มืดได้ง่ายขึ้นได้ด้วย
ฝาหลัง Samsung Galaxy A72 เป็นผิวสัมผัสแบบด้านที่ให้ความรู้สึกคล้ายกระจก มีการออกแบบให้ขอบมีความโค้งมน ช่วยเพิ่มความกระชับมือในระหว่างการใช้งาน ส่วนโมดูลกล้องหลังจะนูนขึ้นมาเล็กน้อย โดยขอบกระจกของแต่ละเลนส์จะอยู่ในระดับที่ต่ำลงไปจากแถบโมดูลกล้องหลัง ช่วยให้ตัวขอบกระจกไม่ได้สัมผัสกับพื้นโดยตรง
สำหรับกล้องหลังทั้ง 4 เลนส์ของ Galaxy A72 ก็เรียงลงมาตามภาพครับ ด้านบนสุดฝั่งซ้ายเป็นเลนส์อัลตร้าไวด์ที่เก็บภาพได้มุมกว้างถึง 123 องศา ถัดมาคือเลนส์ไลด์ที่ให้มุมภาพปกติ ความละเอียดสูงสุด 64MP รองรับระบบชดเชยการสั่นไหว OIS ที่ช่วยให้ภาพคมชัด แม้จะเป็นการถ่ายในที่มีแสงน้อย ด้านล่างสุดเป็นเลนส์เทเลสำหรับการซูม รองรับการซูมออปติคอล 3 เท่า และ Space Zoom (ดิจิตอลซูมรวม) อีก 30 เท่า
ฝั่งขวาบนเป็นเลนส์มาโครสำหรับการถ่ายวัตถุในระยะใกล้มาก ๆ เหมาะกับการถ่ายใกล้สุดในระยะ 3-5 เซนติเมตร ด้านล่างคือแฟลช LED
สีของฝาหลัง Samsung Galaxy A72 ที่มีให้เลือกก็จะมีด้วยกัน 4 โทนสี ได้แก่สีม่วง ฟ้า ดำ และสีขาว ซึ่งก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบเลย นอกจากนี้ยังสามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ในระดับ IP67 (กันน้ำได้ลึก 1 เมตร นานสุด 30 นาที)
บริเวณขอบเครื่องด้านบนจะมีช่องรับเสียงของไมค์ช่วยตัดเสียงรบกวน และก็ถาดซิมแบบไฮบริด ส่วนด้านล่างจะมีช่อง 3.5 มม. ช่องรับเสียงของไมค์สนทนา ช่อง USB-C และก็ลำโพง
ถาดซิมแบบไฮบริดจะรองรับได้ 2 นาโนซิม ส่วนถ้าต้องการใส่ MicroSD ด้วย ก็จะสามารถใส่ได้แค่ซิมเดียวเท่านั้น
ฝั่งขวามีปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนฝั่งซ้ายไม่มีปุ่มหรือพอร์ตเชื่อมต่อใด ๆ
Super AI Game Booster+
ด้วยการที่ Samsung วางให้ Galaxy A72 เป็นสมาร์ตโฟนสำหรับเกมเมอร์ในราคาจับต้องง่าย ซึ่งฟังก์ชันที่มีอยู่ในเครื่องก็ช่วยตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ Super AI Game Booster+ ที่ช่วยในการปรับประสิทธิภาพ การใช้งานแบตเตอรี่ และช่วยในการบูสต์เฟรมเรตเพื่อให้การเล่นเกมเป็นไปได้อย่างไหลลื่นที่สุด ส่วนตัวแอปที่ใช้ปรับการทำงานของระบบนี้ก็จะอยู่ในแอปชื่อ Game Launcher ครับ
เมื่อเข้าไปก็จะพบกับไอคอนของเกมที่ติดตั้งอยู่ในเครื่อง ซึ่งสามารถเข้าไปดูสถิติการเล่นเกมของตนเองได้ รวมถึงยังสามารถเรียกดู และติดตั้งเกมอื่นเพิ่มเติมได้อีกด้วย จะมองว่าเป็นฮับสำหรับชาวเกมก็ได้อยู่เหมือนกัน
นอกจากตัวจัดการเกี่ยวกับเกมแล้ว ก็ยังมีตัวช่วยปรับตั้งค่าการทำงานของฟังก์ชันเพิ่มเติมได้อีก ไม่ว่าจะเป็น การตั้งให้บล็อกการทำงานของส่วนต่าง ๆ ระหว่างการเล่นเกมได้ อาทิ
- การแสดงข้อความแจ้งเตือนจากแอปอื่น ๆ
- การเผลอสั่งงานจากการปาดหน้าจอ เช่น การปาดหน้าจอเพื่อย้อนกลับ (Back)
- การปรับระดับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ
- การเรียกใช้งาน Bixby
- การเปิดใช้งาน Edge panel โดยไม่ตั้งใจ
ส่วนการตั้งค่าอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็เช่น การปรับระยะเวลาการล็อกหน้าจออัตโนมัติ ความละเอียดของภาพแคปหน้าจอระหว่างเล่นเกม การปรับแต่งประสิทธิภาพของระบบ เป็นต้น ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าการปรับแต่งเหล่านี้ค่อนข้างมีประโยชน์ทีเดียวสำหรับการเล่นเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่รู้สึกรำคาญข้อความแจ้งเตือนที่ชอบเข้ามาขัดจังหวะ หรือเด้งขึ้นมาบัง UI ในเกมบ่อย ๆ
กล้องของ Samsung Galaxy A72
กล้องหลังทั้ง 4 ของ Samsung Galaxy A72 มาพร้อมกับความครบครันทั้งช่วงเลนส์และฟังก์ชันพื้นฐานจากซอฟต์แวร์สำหรับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ที่เห็นได้ชัดสุดก็คือพวกโหมดกล้อง ที่มีให้เลือกใช้งานมากมาย เช่น
- โหมด Single Take ที่กดถ่ายคลิปสั้นครั้งเดียว ระบบจะทำการตัดมุมต่าง ๆ ออกมาเป็นภาพและวิดีโอย่อย ๆ ที่สามารถนำไปใช้งานต่อได้สะดวก
- โหมด Fun ที่สามารถใส่ฟิลเตอร์จาก Snapchat ให้ภาพถ่ายได้
- โหมด AR Doodle สำหรับการวาดรูป AR เข้าไปในภาพได้ตั้งแต่ก่อนกดถ่าย
- โหมด Pro ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ เพื่อการปรับแต่งภาพที่ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น
- โหมด Night สำหรับถ่ายภาพกลางคืน
- โหมด Macro สำหรับการถ่ายภาพในระยะใกล้มาก ๆ
ในการถ่ายภาพทั่วไป แอปกล้องของ Galaxy A72 จะมีระบบ AI ช่วยให้ได้ภาพที่ดูสวยงามยิ่งขึ้น เช่น Scene Optimizer ที่ตัว AI จะตรวจจับดูว่าซีนที่ต้องการถ่ายนั้นเป็นแบบใด แล้วพยายามปรับโทนสี ความสว่าง คอนทราสต์ภาพให้เหมาะสมที่สุด ตัวอย่างเช่น ซีนตึก ท้องฟ้า ทะเล ดวงอาทิตย์ เป็นต้น ซึ่งเท่าที่ผมเปิดใช้งานดู ส่วนใหญ่แล้วจะได้ภาพที่สีสันจัดจ้านยิ่งขึ้น อย่างในภาพด้านบนที่ให้สีท้องฟ้าและสีรถแท็กซี่ค่อนข้างจัด และมีคอนทราสต์สูง เหมาะกับการถ่ายภาพในช่วงที่มีแสงแดดจัด แต่ก็อาจจะทำให้รายละเอียดส่วนมืดในภาพนั้นดูมืดไปซักนิดนึงเหมือนกัน ซึ่งถ้าคิดว่ามันดูมืดเกินไป ก็อาจจะปิดการทำงานของ Scene Optimizer ได้ครับ
พอเข้ามาในที่ร่ม การเก็บแสง เก็บสีสันนั้นจัดว่าทำได้ดีเลย เช่นเดียวกับความคมชัดที่ผมว่ากำลังดีเลย จะมีเรื่องลายน้ำที่ส่วนตัวผมมองว่ามันขนาดใหญ่ไปนิด และไม่สามารถปรับเปลี่ยนข้อความได้นะครับ แต่สามารถปิดได้จากตัวตั้งค่าที่อยู่ในแอปกล้องอีกที
ลองเลนส์อัลตร้าไวด์ดูบ้าง พบว่าสามารถถ่ายภาพวิวที่มีระยะไกลได้ดี การเก็บแสงและสีสันนั้นไม่ดร็อปไปจากเลนส์หลักมากนัก ส่วนความคมชัดตรงบริเวณขอบภาพนั้นจัดว่าทำได้ค่อนข้างดี ไม่ถึงกับเบลอมากเกินไป หรือติดขอบดำแบบเห็นได้ชัด
ภาพถ่ายกลางคืนจากกล้องของ A72 ก็ทำได้ในระดับมาตรฐานของสมาร์ตโฟนในยุคนี้ คือให้ภาพที่คมชัด มีการเก็บแสงที่ดีพอสมควร ด้วยการที่ระบบมี OIS ที่ช่วยชดเชยการสั่นไหวขณะเก็บภาพได้ จึงทำให้สามารถเปิดชัตเตอร์เพื่อรับแสงได้นานกว่าปกติ ส่งผลให้ได้ภาพที่มีความสว่างและคมชัดอยู่
โหมดมาโครก็จะช่วยให้การถ่ายภาพวัตถุขนาดเล็กในระยะใกล้นั้นทำได้ง่าย ภาพที่ได้ก็จะเน้นความคมชัดที่บริเวณกลางภาพเป็นหลักครับ
สามารถคลิกเพื่อชมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังและกล้องหน้าของ Samsung Galaxy A72 ได้จากแกลเลอรี่ด้านล่างนี้เลย
ประสิทธิภาพ และการเล่นเกม
Samsung Galaxy A72 เลือกใช้ชิป Snapdragon 720G ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้ทำงานที่มีความสมดุลกันระหว่างประสิทธิภาพ และการใช้พลังงานที่เหมาะสม ยิ่งประกอบกับ Android 11 ที่มาพร้อมกับ One UI 3.1 และแบตเตอรี่ 5000 mAh ด้วย จึงทำให้ Galaxy A72 นั้นเป็นมือถือที่ค่อนข้างลงตัวสำหรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ จะใช้เล่นเกมก็สามารถทำได้ดี และทำได้อย่างยาวนานด้วย
ตัวเครื่องมาพร้อมกับพื้นที่เก็บข้อมูลในตัว 128GB เหลือให้ใช้งานได้จริงราว ๆ 104GB เพียงพอสำหรับการใช้งานแน่นอน หรือถ้าอยากเพิ่ม MicroSD อีกก็ได้ครับ รองรับเพิ่มได้อีก 1TB เต็ม ๆ เลย
ด้านของการปรับรีเฟรชเรตหน้าจอก็สามารถเข้าไปที่เมนู Motion smoothness ที่อยู่ในหัวข้อจอแสดงผล โดยสามารถปรับได้ระหว่าง 90Hz และ 60Hz สำหรับการใช้งานทั่วไปในแต่ละวัน แนะนำว่าเปิด 90Hz ได้เลยครับ แบตเหลือเฟือแน่นอน
สำหรับใครที่ต้องการใช้แอปแชต 2 บัญชี ก็สามารถโคลนแอปได้จากฟังก์ชันของตัวเครื่องเลย โดยจะใช้ชื่อฟังก์ชันว่า Dual Messenger ซึ่งรองรับการทำงานร่วมกับแอปดัง ๆ เช่น Facebook, Facebook Messenger, Line, Telegram ได้หมด รวมถึงยังสามารถสร้าง contact list แยกออกจากบัญชีหลักของเครื่องได้อีกต่างหาก
ประสิทธิภาพจากการทดสอบด้วยแอปก็ออกมาในระดับกลาง ๆ ครับ ตัวชิป Snapdragon 720G เองให้ความแรงของตัว single core ในแอป Geekbench ในระดับใกล้เคียงกับ Snapdragon 845 เลย ดังนั้นถ้าจะเอาไปใช้งานทั่วไป รับรองว่าไม่มีปัญหาแน่นอน
แบตเตอรี่ สำหรับในการใช้งานทั่วไปนั้น ความจุ 5000 mAh จัดว่าเหลือเฟือจนสามารถใช้งานได้ 2 วันแบบไม่ต้องชาร์จเลย ด้วย ส่วนถ้ามีการใช้งานที่ค่อนข้างหนัก มีการเล่นเกมบ้างระหว่างวัน รวมถึงใช้ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอบ่อย ๆ ระยะเวลาการใช้งานก็จะลดลงมาพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังใช้งานจนหมดวันได้อยู่ ยกเว้นแต่ว่าจะเล่นเกมอย่างเดียวติดต่อกันนาน ๆ นะครับ อันนี้ยังไงก็ควรมีสายชาร์จหรือพาวเวอร์แบงค์ติดตัวไว้ซักหน่อย
ส่วนถ้าต้องการเปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่ ที่เมนูของตัวเครื่องก็จะมี Power saving mode มาให้ ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะให้ปรับลดการทำงานลงระดับไหนบ้าง ตัวเลือกที่มีให้เปิด/ปิดก็เช่น
- ปิดฟังก์ชัน always on display ของจอ
- จำกัดการทำงานของ CPU ลงเหลือสูงสุดแค่ 70%
- ลดความสว่างหน้าจอลง 10%
- จำกัดแอปที่สามารถใช้งานได้
ซึ่งข้อหลังสุดนี้ จะคล้ายๆ กับพวกโหมด Ultra power saving ที่คุ้นเคยเลย แต่ใน A72 นี้จะยังแสดงหน้าจอสีอยู่ รวมถึงสามารถอนุญาตให้ใช้งานแอปใดก็ได้ตามที่ต้องการ ส่วนแอปที่ไม่ได้รับอนุญาตก็จะถูกปิดการทำงานเบื้องหลังไป ช่วยให้มีการใช้พลังงานน้อยลง ผมลองเปิดดูแล้วให้เครื่องประเมินระยะเวลาการใช้งานแบตที่เหลืออยู่ พบว่าถ้าเปิดฟังก์ชันด้านบนแบบเต็มสูบ ระบบแจ้งว่าจะสามารถใช้งานได้กว่า 7 วันเลยทีเดียว (ทดสอบที่แบตเตอรี่ 84%) ในขณะที่ถ้าเปิดแค่ 3 ข้อบน จะใช้งานได้อีกราว ๆ 2 วัน 4 ชั่วโมง
ดังนั้นถ้าใครที่กำลังมองหามือถือสเปคค่อนข้างดี สแตนด์บายได้นาน ๆ หยิบมาใช้เล่นเกม ถ่ายรูปได้ในแทบทุกโอกาส Samsung Galaxy A72 นี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลย
ส่วนในการเล่นเกม ผมลองทดสอบกับเกมยอดนิยมที่ค่อนข้างกินสเปคอย่าง Genshin Impact ดู ความละเอียดเริ่มต้นที่เกมเซ็ตมาให้ก็จะอยู่ที่ระดับต่ำทั้งหมด ซึ่งก็เล่นได้ลื่นดี ส่วนถ้าปรับเป็น 60FPS ก็พบว่ายังสามารถเล่นได้ดีอยู่ แต่อาจจะมีการกระตุกบ้างตอนหมุนมุมกล้องเร็ว ๆ ดังนั้น ถ้าอยากจะเล่น Genshin บน Galaxy A72 ให้ได้แบบเนียน ๆ และเล่นได้นาน แนะนำว่าควรปรับกราฟิกไว้ที่ระดับต่ำ แล้วเลือกใช้แค่โหมด 30FPS พอครับ
PUBG Mobile ก็สามารถปรับกราฟิกได้สูงสุดที่ระดับ HD แบบเฟรมเรตสูง ตัวเกมไหลลื่นดีมาก
ส่วน ROV ก็ปรับความละเอียดสูงสุดได้ตามภาพด้านบนเลยครับ รวมถึงยังเปิดโหมดเฟรมเรตสูงได้ด้วยเช่นกัน โดยเฟรมเรตที่ได้ระหว่างเล่นจริงก็จะวิ่งอยู่ในช่วง 57-60 FPS โดยตกอยู่ที่ 59 เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดี ตอบโจทย์การเป็นสมาร์ตโฟนเกมมิ่งเลย
สรุปปิดท้ายรีวิว Samsung Galaxy A72
Samsung Galaxy A72 มือถือรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานในยุคนี้ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะกับการใช้เล่นเกม ด้วยตัวเครื่องที่มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการปรับจูนมาอย่างลงตัว ซอฟต์แวร์ที่ช่วยรีดประสิทธิภาพ และมีฟังก์ชันในการบริหารจัดการทรัพยากรได้ดี บวกกับการการันตีเรื่องการอัพเดตอย่างต่อเนื่องไปอีกไม่น้อยกว่า 3 ปีด้วย จึงทำให้มือถือเครื่องนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหามือถือราคาหมื่นต้น ๆ ที่ได้ความครบครันทั้งตัวเครื่อง งานประกอบที่ดี ประสิทธิภาพลื่นไหล ซอฟต์แวร์ที่มั่นใจได้ รวมไปถึงช่องทางการวางจำหน่าย และการรับการสนับสนุนที่มีความพร้อมและหลากหลายในปัจจุบัน
ซึ่งในด้านการเล่นเกมที่เป็นโจทย์ของ Galaxy A72 นั้น จากการทดสอบก็พบว่าสามารถทำได้ดีสมราคา คือสามารถเล่นเกมในปัจจุบันได้ค่อนข้างยาวนานจากแบตเตอรี่ในตัวเครื่อง โดยต้องอาศัยการปรับระดับกราฟิกให้เหมาะสม เพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหลที่สุด ฝั่งซอฟต์แวร์อย่างระบบ AI Game Booster+ ก็ช่วยเสริมประสบการณ์การเล่นเกมให้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนที่มีการจัดการทรัพยากรเบื้องหลัง และก็ระบบช่วยลดการรบกวนจากการทำงานอื่น ๆ ของตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี
แต่ทั้งนี้ Galaxy A72 อาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้างตรงที่ยังคงรองรับเครือข่ายที่ระดับ 4G LTE เท่านั้น ทำให้มีคู่แข่งที่ค่อนข้างใกล้เคียงกันอย่าง Samsung Galaxy A52 5G ที่เปิดราคามาใกล้เคียงกัน รวมถึงมือถือ 5G จากแบรนด์อื่นด้วย แต่ตัวของ A72 ก็จะมีจุดเด่นกว่าตรงความครบครันแบบรอบด้าน ที่ตอบโจทย์การเล่นเกมได้ดี งานประกอบเครื่องดูแน่นหนาตามสไตล์ Samsung หรือจะใช้ถ่ายรูปก็ทำได้ค่อนข้างหลากหลายด้วย อย่างไรก็ตาม ลองไปสัมผัส ไปลองเล่นตัวเครื่องจริงกันดูก่อนได้ครับ หรือถ้าต้องการสั่งซื้อตรงกับช่องทางออนไลน์ของ Samsung เอง ก็เข้าไปดูที่นี่ได้เลย